สายการบินไทยแอร์เอเชีย คาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 62 จะดีขึ้นกว่าครึ่งแรก โดยคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการดึงนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทย หลังจากที่หดตัวไปในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าทั้งปี 62 จำนวนผู้โดยสารจะเข้าเป้า 23.5 ล้านคน ขณะที่ปรับแผนรับเครื่องบินเป็น 2 ลำ จาก 4 ลำ และเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบิน (Utilization) เพิ่มขึ้นจาก 12 ชม./วัน เป็น 12.5 ชม./วัน
"ครึ่งปีหลังเราก็หวังว่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่น นักท่องเที่ยวจีนน่าจะกลับมา รัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวฯ น่าจะมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังเสร็จการแถลงนโยบาย การต่ออายุ Visa Arrival ก็คิดว่าน่าจะทำต่อเนื่อง" นายสันติสุข คล่องใช้งาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าว
ในช่วงครึ่งปีแรก สายการบินไทยแอร์เอเชีย มีจำนวนผู้โดยสาร 11.44 ล้านคน เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมั่นใจว่าทั้งปีสามารถทำได้ตามเป้าหมาย 23.5 ล้านคน แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยลดลง 4.7% และนักท่องเที่ยวยุโรปก็ลดลง 1.8% โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับภาครัฐที่จะจัดแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวจีนที่หลังจากรับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อปีก่อน
นอกจากนี้จากผลสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงก็เป็นปัจจัยต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน และยุโรป ที่มีสัดส่วนจำนวนมากของผู้โดยสารสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยในไตรมาส 2/62 อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(Load Factor) อยู่ที่ 83% ลดลง 0.2% จากไตรมาส 2/61 และในช่วงครึ่งปีแรก Load Factor เฉลี่ย 87% จากเป้าหมายทั้งปี 62 อยู่ที่ 86% ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ไทยแอร์เอเชีย ปรับแผนการรับเครื่องบินในปีนี้เหลือ 2 ลำจากเดิม 4 ลำ โดยจะรับมอบในเดือน พ.ย.-ธ.ค. และคืนเครื่องบินไป 1 ลำหลังครบอายุเช่า ทำให้สิ้นปี 62 มีฝูงบิน 63 ลำจาก 62 ลำในปี61 ทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 8% และ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 12% ดังนั้น ได้ตั้งเป้าที่จะมีการใช้เครื่องบินเป็น 12.5 ชม./วันจากเดิม 12 ชม./วัน นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลัง สายการบินไทยแอร์เอเชีย เล็งเปิดเส้นทางบินใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ ไฮเดอราบัดประเทศอินเดีย และกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยงจากเอเชียใต้ กลับมีเพิ่มขึ้นจากผลการยกเว้นวีซ่าที่มีผลถึงสิ้นเดือน ต.ค.62