นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) วางเป้ารายได้ในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 62-64) ให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ขณะที่กำไรจะทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในช่วงครึ่งหลังปีนี้คาดว่าปริมาณการขนส่งสินค้ามีมากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล แต่จะมากกว่าเพียงใดขึ้นกับการแข็งค่าของเงินบาท ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะโตตามเป้าที่ 20% หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกรายได้โตตามเป้า
อีกทั้งการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับ Teleport Group ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มแอร์เอเชีย (ถือ 100%) จะทำให้บริษัทมีการเติบโตในระยะยาว จากเดิมเป็นเพียงซัพพลายเออร์กับผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ รายได้การขนส่งทางอากาศ มีสัดส่วนสูงถึง 65% นอกนั้นเป็นการขนส่งเคมีภัณฑ์ 25% ที่เหลือเป็นการขนส่งทางเรือ และโลจิสติกส์เมเนจเม้นท์
นายทิพย์ กล่าวว่า การร่วมทุนจะจัดตั้งบริษัทใหม่ "เทเลพอร์ต ไทยแลนด์" คาดวจะเปิดดำเนินการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในวันที่ 1 ม.ค.63 โดยระหว่างเตรียมทั้งบุคคลากร ลงทุนเทคโนโลยี ทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 3 ปีแรกรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยใช้จุดแข็งที่กลุ่มแอร์เอเชียมีเครือข่ายการบินครอบคลุม ที่ไทยแอร์เอเชียบินเส้นทางในประเทศมากที่สุด ความถี่มากที่สุด ทำให้ตลาดในประเทศมีโอกาสเติบโตอย่างมากนอกเหนือจากตลาดต่างประเทศ และเส้นทางบินของแอร์เอเชียเอ็กซ์ที่บินไปสุ่ต่างประเทศอย่างออสเตรเลีย ญี่ปุ่น
ด้านนายพีท เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Teleport กล่าวว่า การร่วมลงทุนในไทยโดยมี III เป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับแอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์มานานกว่า 10 ปี ซึ่ง III จะถือหุ้น 51% และ Teleport ถือ 49% โดยมองว่าตลาดไทยเป็นตลาดที่สำคัญ หลังจากที่ Teleport ได้ทำตลาดที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
บริษัทที่ร่วมทุนกันระหว่าง III และ Telepot จะใช้เครือข่ายการบินในกลุ่มแอร์เอเชียมี 9 สายการบิน จำนวนเครื่องบิน 270 ลำ ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายที่มาก ขณะที่ตลาดขนส่งสินค้าทางอากาศ(Cargo) ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูงถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่พื้นที่สินค้าบนท้องเครื่องบินใช้ไปเพียง 15% อีกทั้งจับกลุ่มตลาด E-Commerce ที่มีแนวโน้มเติบโต 30% ต่างจากตลาด Cargo เดิมที่มีอัตราเติบโตต่ำเพียง 1% ทำให้เห็นโอกาสเติบโตและจับมือกับ III ซึ่งมีประสบการณ์
ส่วน Teleport มองว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้ทีเป็นปีแรกที่ดำเนินการคาดจะมี 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ปีหน้าเพิ่มเป็น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปีที่ 5 จะเติบโตเป็น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ