หุ้น ILM ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท (+4.09%) จากราคาขาย IPO ที่ 22 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,995.18 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 22.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 23.60 บาท และราคาลงต่ำสุด 22.20 บาท
น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เป็นวันแรก และราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 22.30 บาท/หุ้น สามารถยืนเหนือราคาเสนอขายที่ 22.00 บาท/หุ้น ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งของแบรนด์ อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ และสินค้าและบริการที่ครบวงจร รวมถึงช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุม น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้ไปลงทุนขยาย Index Living Mall โดยปี 62-63 จะเปิดบริการ Index Living Mall อีก 3 สาขา ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 620 ล้านบาท ได้แก่ สาขาจันทบุรี มีพื้นที่ขายประมาณ 3,500 ตารางเมตร และสาขาสุขาภิบาล 3 มีพื้นที่ขายและให้เช่าประมณ 9,200 ตารางเมตร ในช่วงเดือนก.ค.นี้ และสาขารามอินทรา มีพื้นที่ขายประมาณ 3,500 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดบริการได้ช่วงปลายปี 63
ปัจจุบันที่เปิดบริการ Index Living Mall และ Index Furniture Center แล้วทั้งสิ้น 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21 จังหวัดทั่วประเทศไทย และยังเป็นผู้ให้บริการธุรกิจให้เช่าและบริการพื้นที่เช่า ภายใต้แบรนด์ The Walk, Little Walk และ Index Mall รวม 9 สาขา ซึ่งมีอัตราการเช่าใช้พื้นที่รวมเฉลี่ยกว่า 80%
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก (COCO) ภายใต้ชื่อ Winner Furniture Center ที่บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนและบริหารร้านเอง มี 3 รูปแบบ พื้นที่ประมาณ 1,050 – 1,700 ตารางเมตร โดยมีแผนเปิดบริการในปีนี้ 2 สาขา เพื่อกระจายทำเลเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมถึงจะขยายช่องทางขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด Younique ภายใน Index Living Mall สาขาต่างๆ ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการออกแบบและผลิตสินค้า สามารถออกแบบ ผลิต และติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการลดต้นทุนด้านพลังงาน โดยมีโครงการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในโรงงาน และแผนลงทุนโครงการอื่นๆ อาทิ ปรับปรุงอาคารร้าน Index Living Mall, ลงทุนพัฒนาระบบไอที ฯลฯ รวมถึงชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินที่จะส่งผลดีต่อการลดต้นทุนทางการเงิน
น.ส.กฤษชนก กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯมองกำลังซื้อในประเทศน่าจะยังทรงตัว เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ โดยบริษัทฯ ก็เตรียมจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายจำนวนมากไปจนถึงสิ้นปี
ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปยังการขายแฟรนไชส์ ภายใต้แบรนด์ ILM เป็นหลัก โดยมีแผนขยายแฟรนไชส์ปีละ 1 ประเทศ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/62 หรือต้นไตรมาส 4/62 อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ มีการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนส์ไปแล้วจำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เนปาล ลาว มัลดีฟส์ เมียนมา กัมพูชา และปากีสถาน