ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,708.46 จุด ลดลง 9.51 จุด (-0.55%) มูลค่าการซื้อขาย 29,140.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,722.20 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,706.55 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ซึ่งการย่อตัวลงสอดคล้องกับมุมมองของเราว่าในช่วงปลายเดือน ก.ค.จนถึงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. ตลาดฯมีโอกาสย่อตัวลง เนื่องจากตอบรับปัจจัยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิดในระดับ 0.25% ไม่ได้สร้าง Surprise
นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 คาดว่าจะออกมาค่อนข้างอ่อนแอ จะนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดประมาณการลง ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าว จึงต้องระวังการลงทุนในช่วงต้นเดือน ส.ค. และหลังจากที่ดัชนีฯได้ลงมาต่ำกว่าระดับ 1,715 จุด ทำให้ตลาดฯมีโมเมมนตัมเป็นลบ และมี Downside ลงไปทดสอบแนวรับ 1,680-1,690 จุด กลยุทธ์ให้ระวังแรงขายทำกำไร และรอซื้อเมื่อดัชน๊ฯลงต่ำกว่าระดับ 1,700 จุด
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Fund Flow ในเอเชียเป็นลักษณะของการขายสุทธิเกือบทุกตลาดฯ หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากที่คาดว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแค่ 0.25% หากเป็นจริงก็อาจทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯมีโอกาสแข็งค่าต่อทำให้ไปกดดันเงินทุนไหลเข้า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบได้อยู่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,705-1,715 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,463.27 ล้านบาท ปิดที่ 434.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
ROBINS มูลค่าการซื้อขาย 1,286.40 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,240.76 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 3.00 บาท
ILM มูลค่าการซื้อขาย 1,089.24 ล้านบาท ปิดที่ 23.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 962.75 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท