นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการวัน แบงค็อกว่า งานเสาเข็มของโครงการได้สำเร็จเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเฟสแรกในปี 66 และก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 69 มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยการลงทุนของโครงการดังกล่าวแบ่งสัดส่วนเป็นทุนของบริษัท 40% และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 60%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันปัจจัยต่างๆทั้งภายในและภายนอกยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่บริษัทยังมั่นใจเดินหน้าพัฒนาโครงการวัน แบงค็อกให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ และยังมั่นใจว่าใช้กรอบการลงทุนมูลค่าการลงทุนที่ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งได้รวมปัจจัยของแนวโน้มต้นทุนก่อสร้างและค่าแรงที่มีโอกาสเพิ่มขึ้น อีกทั้งการลงทุนโครงการวัน แบงค็อก เป็นการลงทุนในระยะยาวของบริษัท ซึ่งคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น พร้อมกับการมุ่งหวังสร้างการเปลี่ยนแปลงบนถนนพระราม 4 ให้คึกคักมากขึ้น และเชื่อมต่อไปยังโครงการต่างๆในเครือ ได้แก่ PARQ, FYI, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติต์ และสามย่านมิตรทาวน์
ส่วนโรงแรมในโครงการวัน แบงค็อก ที่มีทั้งหมด 5 โรงแรม 1,100 ห้อง ปัจจุบันได้เปิดตัวเชนบริหารไปแล้ว 1 โรงแรม คือ The-Ritz-Carton และที่เหลืออีก 4 โรงแรม จะทยอยประกาศเชนบริหารออกมาในช่วงกลางปี 63 ซึ่งจะเป็นเชนบริหารที่เหมาะสมกับลักษณะของโรงแรมในโครงการวันแบงค็อกที่เป็นรูปแบบ Business Hotel, Boutique และ Luxury
และการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในโครงการวัน แบงค็อก ที่มีทั้งหมด 110 ยูนิต จะเปิดตัวในปี 63 โดยที่ราคาขายจะเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายบนทำเลถนนวิทยุ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีราคาขายสูงที่สุดในกรุงเทพฯ โดยที่ราคาขายโครงการคอนโดมิเนียมในโครงการวัน แบงค็อก คาดจะใกล้เคียงที่ 700,000 บาท/ตารางเมตร โดยกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการวัน แบงค็อก แบ่งเป็น ลูกค้าชาวไทย 70% และลูกค้าชาวต่างชาติ 30%
"โครงการวัน แบงค็อกจะสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราคือการเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ จึงเชื่อมั่นว่า วัน แบงค็อกจะมอบสิ่งที่คู่ควรกับกรุงเทพฯ พร้อมชูให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป" นายปณต กล่าว
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก (One Bangkok) กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัท คือ การยกระดับสถานะของกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ที่จะได้รับการยอมรับในระดับโลก จากมุมมองที่ได้เรียนรู้ผ่านย่านสำคัญต่างๆ ของมหานครทั่วโลก ทำให้เราตระหนักว่าการสร้างและผสานพื้นที่ของ วัน แบงค็อกตามคอนเซ็ปท์มิกซ์ยูสนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยพลังและไม่มีวันหลับใหล ด้วยขนาดที่ใหญ่ของโครงการ บริษัทจึงวางแผนการใช้งานพื้นที่ไว้อย่างหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และที่พักอาศัย พร้อมด้วยพื้นที่ส่งเสริมการศึกษา การพักผ่อน สุขภาพ รวมถึงพื้นที่สำหรับศิลปะและวัฒนธรรม มีพื้นที่สาธารณะซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาได้ โดยมุ่งหวังว่าการผสานพื้นที่ให้หลากหลายเช่นนี้จะสร้างแลนด์มาร์คที่สมบูรณ์แบบ เปี่ยมด้วยศักยภาพในการดึงดูดองค์กรชั้นนำและเป็นสถานที่ยอดปรารถนาของนักท่องเที่ยวและคนไทยอย่างแน่นอน สำหรับมาสเตอร์แพลนของวัน แบงค็อก จะผสาน 5 หัวใจหลักของโครงการไว้เป็นหนึ่งเดียว มาสเตอร์แพลนแบบมิกซ์ยูสของ วัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบเพื่อให้เป็นที่สุดของเมืองแห่งความครบครัน เพียบพร้อมด้วยอาคารสีเขียว และการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง พื้นที่ในโครงการสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมาสเตอร์แพลนประกอบด้วย 4 อาณาบริเวณที่เชื่อมต่อถึงกัน โดยมีใจกลางของโครงการอยู่ที่ Civic Plaza พื้นที่สันทนาการขนาด 10,000 ตารางเมตร รอบล้อมด้วยพื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์บริเวณส่วนล่างของตึก ส่วนพื้นที่สำนักงานและพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยจะอยู่ส่วนบนของตึก
มาสเตอร์แพลนของ วัน แบงค็อก ยังให้ความสำคัญอันดับแรกๆ กับการเข้าถึงและการเดินทางอย่างสะดวกสบาย ตัวโครงการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี สะดวกต่อการเดินเข้าถึงทุกจุดของโครงการ พร้อมทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด จากฝั่งถนนวิทยุ ถนนพระราม 4 รวมถึง ทางเชื่อมโดยตรงกับทางด่วนซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการอนุมัติ ทางเข้าออกเชื่อมต่อโดยตรงกับชั้นใต้ดินซึ่งใช้ระบบบริหารจัดการจราจรอย่างชาญฉลาด ช่วยให้การหมุนเวียนด้านการจราจรภายในสะดวกง่ายดาย ทำให้ถนนหลักภายในโครงการปลอดโปร่งและปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า โดยวัน แบงค็อก มุ่งสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อคนเดินเท้าด้วยการออกแบบให้ถนนทุกสายและทุกซอยเชื่อมต่อกัน เรียงรายด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ งานศิลปะ และพื้นที่จัดกิจกรรม เชื่อมต่อทุกส่วนประกอบของโครงการเข้าไว้ด้วยกัน ทางเดินในโครงการก็จะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน ทำให้การเดินภายนอกท่ามกลางสภาพอากาศของกรุงเทพฯ สบายยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่ในอาคารก็จะมีระบบปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน
ด้วยทำเลทองใจกลางเมือง วัน แบงค็อก มุ่งเป็นที่ตั้งบริษัทที่ทรงคุณค่าและน่าภาคภูมิใจในกรุงเทพฯ และจะเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจแห่งใหม่ ด้วยพื้นที่เช่าสุทธิของอาคารสำนักงานเกรดเอทั้ง 5 อาคารรวมกันกว่า 500,000 ตารางเมตร รองรับบุคลากรขององค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ได้มากกว่า 50,000 คน ออกแบบตามมาตรฐาน LEED และ WELL ติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยกำหนดการก่อสร้างเป็นเฟสให้แล้วเสร็จในระหว่างปี 66-69 นอกจากนี้ อาคารสำนักงานทั้ง 5 อาคารยังสอดคล้องกับการใช้พื้นที่รูปแบบมิกซ์ยูสตอบโจทย์คนวัยทำงาน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรอบด้าน ที่เชื่อมต่อทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน และการพักผ่อนได้อย่างลงตัว วัน แบงค็อก ยังได้คำนึงถึงนิยามใหม่ให้กับย่านช้อปปิ้งในกรุงเทพฯ นำเสนอมากกว่าทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการช็อปปิ้งและร้านอาหาร แต่จะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่มอบความครบครัน พร้อมสรรพด้วยกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับผู้มาเยือน ซึ่งจะเนรมิตให้วัน แบงค็อกกลายเป็นสถานที่ที่ไม่หลับใหล นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ให้แบรนด์ต่างๆ ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยพื้นที่รีเทล 4 โซน ที่มีความแตกต่างกันและเชื่อมต่อถึงกัน พร้อมด้วยร้านค้าและร้านอาหารรวมกันกว่า 450 ร้าน บนพื้นที่ 180,000 ตารางเมตร รังสรรค์ประสบการณ์รีเทลที่แปลกใหม่และแตกต่าง ภายในที่แห่งเดียว ถือเป็นครั้งแรกของกรุงเทพฯ สำหรับโรงแรม 5 แห่งภายใน วัน แบงค็อก ทั้งหมดจะเป็นแบรนด์ใหม่สำหรับกรุงเทพฯ เป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบริการที่ดีที่สุดรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและความสะดวกสบายครบครัน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับบูทีคโฮเทล โรงแรมเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ รวมกว่า 1,100 ห้อง ได้รับออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักอย่างรอบด้าน โดยโรงแรมลักชัวรี่แห่งแรกคือ The Ritz-Carlton, Bangkok ที่จะพร้อมเปิดให้บริการในปี 66 ส่วนที่พักอาศัยของ วัน แบงค็อก จะตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของโครงการ เพื่อความสงบและความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย เปิดรับวิวทั้งจากฝั่งถนนวิทยุและฝั่งสวนลุมพินี โดยมีอาคารที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ทั้งหมด 3 อาคาร พร้อมมอบเอกสิทธิ์แห่งการใช้ชีวิตที่มองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติของสวนลุมพินี และวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามาไร้สิ่งบดบัง ซึ่งที่พักอาศัยโครงการแรกจะตั้งอยู่เหนือโรงแรม The Ritz-Carlton, Bangkok ประกอบด้วยห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราขนาด 2-4 ห้องนอน จำนวน 110 ห้อง พื้นที่เริ่มต้นที่ 130 ตารางเมตร พร้อมเปิดตัวช่วงต้นปี 63 สิ่งที่ถือเป็นความสำเร็จของ วัน แบงค็อก คือ Signature Tower ที่สูงกว่า 430 เมตร ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสิบตึกที่สูงที่สุดของอาเซียน โดดเด่นเป็นสง่าเติมเต็มเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ภายในประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและโรงแรมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ พร้อมมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การชมวิวแบบพาโนราม่า สวยงามแบบไร้ขอบเขตจากยอดตึกศิลปะและวัฒนธรรมเป็นอีกส่วนสำคัญที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบร่วมสมัยในเมือง
โดยวัน แบงค็อก มุ่งที่จะเป็นเป้าหมายของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ต้องมาเยือน และสร้างสีสันให้กับชุมชนด้วยศิลปะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ พื้นที่ทั้งหมดในโครงการจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยงานศิลปะตามแนวคิดพหุประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนสัมผัสกับศิลปะรอบตัว นอกจากนี้ ยังมีฮอลล์เอนกประสงค์สำหรับจัดการแสดง พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมตลอดทั้งปี วัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่เชิญชวน ปลอดภัย และเต็มไปด้วยสีเขียวด้วยพื้นที่สีเขียวถึง 50 ไร่ จากพื้นที่รวม 104 ไร่ ซึ่งได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ผู้คนได้มาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึง Civic Plaza ที่มีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สามารถเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงระดับนานาชาติและงานเทศกาลต่างๆ ของไทยได้ และสวนรอบโครงการทั้งทางฝั่งถนนวิทยุและถนนพระราม 4 ที่กว้างกว่า 40 เมตร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เปรียบเป็นส่วนต่อขยายของสวนลุมพินี
ทั้งโครงการจะมีระบบโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางสุดล้ำสมัย ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของประเทศไทยสำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเอกชน ประกอบด้วยระบบทำความเย็น ระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ระบบการจัดการน้ำและพลังงาน ควบคุมดูแลโดยศูนย์ข้อมูล (District Command Centre) และเซ็นเซอร์อันชาญฉลาดมากกว่า 250,000 ตัว ที่คอยบริหารจัดการทุกระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผสานนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเข้ามาในทุกองค์ประกอบของโครงการ ช่วยให้ทุกคนที่อยู่ในวัน แบงค็อก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ผู้มาเยือน และผู้อยู่อาศัย ล้วนได้รับประโยชน์จากการประหยัดพลังงาน สิ่งแวดล้อมที่สะอาด ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น