นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงกรณีดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยมองว่าเป็นผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.50% ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงในทิศทางเดียวกัน
ประกอบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศว่าเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มเก็บวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งไม่รวมสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯซึ่งถูกเรียกเก็บภาษี 25% ก่อนหน้านี้
นายภากร กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานครนั้น จะเป็นเพียงผลกระทบกับ Sentiment ระยะสั้นเท่านั้น โดยแนะนำการลงทุนให้มองที่พื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก แต่หากไม่มีความชำนาญในการลงทุนแนะนำให้เข้าลงทุนในกองทุนทดแทน
"การปรับลดของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยจะเห็นว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลง 1.6% ตลาดมาเลเซียลดลง 0.86% ตลาดเกาหลีลดลง 1.87% ตลาดสิงคโปร์ลดลง 2.43% ตลาดไต้หวันลดลง 2.60% ตลาดญี่ปุ่น 3.05% ตลาดจีนลดลง 3.42% และตลาดฮ่องกงลดลง 4.24% จะเห็นได้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงน้อยกว่าที่ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค สำหรับเหตุระเบิดมองว่าเป็นผลกระทบต่อ Sentiment การลงทุนระยะสั้นเท่านั้น"นายภากร กล่าว
ล่าสุด ดัชนี SET อยู่ที่ 1,675.48 จุด ลดลง 24.27 จุด หรือ 1.43%