สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (30 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2562) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 352,249.64 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 88,062.41 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 9% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภท ของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 74% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 260,070 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 71,405 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,617 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB23DA (อายุ 4.4 ปี) LB28DA (อายุ 9.4 ปี) และ LB326A (อายุ 12.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย ในแต่ละรุ่นเท่ากับ 13,024 ล้านบาท 11,738 ล้านบาท และ 9,341 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) รุ่น CK246B (A) มูลค่าการซื้อขาย 731 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BAM297A (AA-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 531 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด รุ่น DTN279A (AA) มูลค่าการซื้อขาย 524 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงในตราสารระยะยาว 3-18 bps. ภายหลังจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. 62 มีมติปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.00-2.25% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2551 โดย Fed มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวม ทั้งอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำของสหรัฐฯประกอบกับความกังวลด้านสงครามการค้าเพิ่มขึ้นภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจาก จีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. 62 ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าตลาดติดตามผลการประชุม กนง.
สัปดาห์ที่ผ่านมา (29 ก.ค. - 2 ส.ค. 62) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 4,187 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 5,830 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 10,860 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 843 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (30 ก.ค. - 2 ส.ค. 62) (22 - 26 ก.ค. 62) (%) (1 ม.ค. - 2 ส.ค. 62) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 352,249.64 386,442.19 -8.85% 12,779,171.75 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 88,062.41 77,288.44 13.94% 89,364.84 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 113.26 111.54 1.54% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.26 105.01 0.24% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (2 ส.ค. 62) 1.7 1.73 1.73 1.67 1.69 1.8 1.87 2.42 สัปดาห์ก่อนหน้า (26 ก.ค. 62) 1.69 1.75 1.75 1.73 1.75 1.92 2.05 2.59 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 -2 -2 -6 -6 -12 -18 -17