โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไพลอน(PYLON) แม้ปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพียงพอสำหรับการรับรู้รายได้ถึงแค่ไตรมาส 3/62 แต่ PYLON ก็มีโอกาสที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในงานโครงการขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเปิดประมูลและรู้ผลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ,ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง ก็จะเป็นโครงการเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการเติบโตได้ในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเติบโตจากปีที่แล้ว จากมาร์จิ้นที่สูงขึ้นจากการได้รับงานภาครัฐ ที่จะเป็นงานเฉพาะค่าแรงซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเข้ามามากขึ้น
ช่วงบ่ายราคาหุ้น PYLON อยู่ที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.82% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.07%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เอเชีย เวลท์ ซื้อ 8.00
บัวหลวง ซื้อ 7.40
เออีซี ซื้อ 7.30
ทิสโก้ ซื้อ 8.70
นางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการของ PYLON ดีตามภาพรวมอุตสาหกรรม โดยประเมินกำไรสุทธิปี 62 ที่ระดับ 236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับกำไรสุทธิ 217.79 ล้านบาทในปีที่แล้ว และรายได้ที่ 1.5 พันล้านบาท โดยยังมีแรงหนุนจากทั้งงานภาครัฐและเอกชน เช่น งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 26.1% เทียบกับปี 61 ที่ 23.6% นอกจากนี้ยังเข้าประมูลงานโครงการของภาคเอกชนด้วย อาทิ โครงการบางกอกมอลล์ และโครงการมิกซ์ยูสของกลุ่มดุสิตธานี
ขณะเดียวกัน PYLON ยังเตรียมประมูลงานภาครัฐเพิ่มเติมภายในปีนี้ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง และงานทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง รวมมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปีงบประมาณใหม่หรือช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.62
ณ สิ้นไตรมาส 1/62 PYLON มี Backlog สิ้นทั้ง 900 ล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ถึงแค่ไตรมาส 3/62 เท่านั้น แต่ PYLON ยังคงหางานใหม่เข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง โดยงานขนาดใหญ่ภาครัฐมีมาร์จิ้นดีเนื่องจากเป็นงานค่าแรงอย่างเดียวจะสามารถเซ็นสัญญาและเปิดประมูลได้ในช่วงปลายปี 62 ทำให้คาดว่างานใหม่ที่เข้ามาในช่วงนี้จะเป็นงานจากเอกชนเป็นหลัก
แม้ว่า Backlog จะเหลือน้อยเมื่อเทียบกับผู้รับเหมาฐานรากหลายอื่น แต่ PYLON เองถือว่าเป็นผู้รับเหมารายหลัก ๆ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นึกถึง ทำให้ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเดิมที่ 8 บาท อิงค่า PER ที่ 25.5 เท่า
ด้านบล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ PYLON ในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 251 ล้านบาท หรือเติบโต 15.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้งาน Backlog อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 1/62 มีกำไรแล้ว 32% ของประมาณการทั้งปี และมองว่าโมเมนตัมการรับรู้งานจะทรงตัวใกล้เคียงกันในไตรมาส 2/62 และไตรมาส 3/62
สำหรับกำไรที่เติบโตในปีนี้ จะมาจากรายได้การก่อสร้างที่คาดว่าจะเติบโต 2.3% มาที่ 1,471 ล้านบาท จากการรับรู้ Backlog ในมือราว 700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ครอบคลุมไปถึงช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นงานภาคเอกชนราว 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นงานภาครัฐ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มเป็น 25% จาก 23.6% ในปี 61 หลังคาดมีงานจากภาครัฐที่เป็นงานเฉพาะค่าแรงซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเข้ามามากขึ้น
"เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ PYLON หลังยังคงควบคุม Backlog ในมือราว 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถ Secured Revenue ในช่วง 2-3 ไตรมาสล่วงหน้าได้ ขณะที่ยังมีงานภาครัฐที่คาดเริ่มประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง เช่น ทางด่วนพระราม 3 บวกกับราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 18.7% จากมูลค่าพื้นฐานปี 62 และคาดให้ dividend yield 4.1% ทำให้ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ""เออีซี ระบุ
ขณะที่บทวิเคราะห์บล.ทิสโก้ แนะนำ"ซื้อ" สำหรับ PYLON แม้แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังของปีนี้ จะอ่อนแอกว่าครึ่งปีแรกจากงานใหม่ ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ กว่าจะเริ่มก่อสร้างจะเป็นช่วงต้นปี 63 ทำให้ผลประกอบการต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวก่อนที่จะกลับมาเติบโตใหม่ในอนาคต แต่ PYLON ก็มีศักยภาพในการเติบโตจากโอกาสจะได้มีส่วนร่วมในงานขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะประมูลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่เป็นงานฐานรากกว่า 1 แสนล้านบาท รวมถึงงานทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง, โครงการมิกซ์ยูสที่บางซื่อ, สนามบินอู่ตะเภา และรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ เป็นต้น