ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงกว่า 170 จุด หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะซบเซาลงอีก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดขยับลง 0.8 จุด แตะระดับ 5,879.3 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.36 พันล้านดอลลาร์
เบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มซบเซาลงอีก และคาดว่าจะมีธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่งที่ขาดทุนในตลาดซับไพรม์ พร้อมกับกล่าวว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเบอร์นันเก้สะท้อนให้เห็นว่า เฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนตลาดอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยสกัดช่วงขาลงของตลาดหุ้นลอนดอนเอาไว้ได้ โดยหุ้นดิเอจิโอซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของอังกฤษ ได้รับแรงซื้อเข้าหนุนจนพุ่งขึ้น 47 เพนซ์ ปิดที่ 1081 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 9% แตะระดับ 1.41 พันล้านปอนด์ในปีที่แล้ว
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นตามราคาโลหะ เนื่องจากวิกฤตการณ์พลังงานในแอฟริกาใต้ยังไม่คลี่คลาย โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 69 เพนซ์ ปิดที่ 3094 เพนซ์ หุ้นลอนมินดีดขึ้น 79 เพนซ์ ปิดที่ 3359 เพนซ์ หุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ทะยานขึ้น 50 เพนซ์ ปิดที่ 2004 เพนซ์ และหุ้นเอ็กซ์สตราต้าพุ่งขึ้น 72 เพนซ์ ปิดที่ 3852 เพนซ์
นอกจากนี้ หุ้นบริติช เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 9 เพนซ์ ปิดที่ 542 เพนซ์ หลังจากมีข่าวว่าบริษัทวางแปนจะสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--