หุ้น GPSC ราคาขยับขึ้น 3.32% มาอยู่ที่ 70 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 969.82 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.16 น. โดยเปิดตลาดที่ 68.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 70.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 68 บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เพื่อลงทุนระยะยาว เนื่องจากกำลังผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโต ตามโครงการในมือและซื้อบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) อีกทั้งยังมีโอกาสได้มูลค่าเพิ่มจากธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ ที่ใช้เทคโนโลยีของ 24 Technologies Inc. (24M), โครงการลงทุนใหม่ของกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ได้แก่ โรงไฟฟ้า ERU ที่ซื้อจากบมจ.ไทยออยล์ (TOP) (250 MW), โรงไฟฟ้าในเมียนมา โดยร่วมลงทุนกับบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) & บมจ.ปตท. (PTT) , โครงการ EEC (ซึ่งยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ) พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 70 บาท (หลัง XR) ทั้งนี้ ยังไม่รวม Synergy Benefit จากการซื้อ GLOW (ราคาเป้าหมาย 82 บาทก่อนเพิ่มทุน)
ด้านกำไรไตรมาส 2/62 ต่ำกว่าตลาดคาด โดยบริษัทประกาศกำไรสุทธิ 1,081 ล้านบาท ในไตรมาส 2/62 +3%YoY, +15%QoQ กำไรเพิ่มขึ้น QoQ สาเหตุหลักจาก 1)รับรู้กำไรของ GLOW เต็มไตรมาสครั้งแรก 2) โรงไฟฟ้า IPP ปริมาณขายไฟฟ้าของ GPSC (โรงไฟฟ้าศรีราชา) +166%QoQ เป็น 466 GWh และ +406% เป็น 1,629 GWh สำหรับ GLOW 3) โรงไฟฟ้า SPP 3.1) ปริมาณขายไฟฟ้าของ GPSC=1,041 GWh -1%QoQ สำหรับ GLOW +360%QoQ เป็น 2,204 GWh 3.2) ปริมาณขายไอน้ำทั้ง GPSC&GLOW เพิ่มขึ้น +3%/409% เป็น 1,628/1,903 พันตันใน ไตรมาส 2/62 ตามลำดับ
แม้ว่าดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 1,610 ล้านบาท +332%QoQ และบันทึกค่าตัดจำหน่ายจากส่วนต่างมูลค่ายุติธรรม(มูลค่าสิทธิในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า) กับมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์สุทธิของ GLOW 360 ล้านบาท หากไม่รวมค่าตัดจำหน่ายดังกล่าว กำไรสุทธิไตรมาส 2/62 = 1,441 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งไม่รวมผลกระทบ FX+มาตรฐานบัญชี (Normalized Net Profit: NNP)=1,217 ล้านบาท +16%QoQ, +14%YoY สำหรับ 1H62=2,270 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,023 ล้านบาท +3%YoY ซึ่งคิดเป็น 54% ของกำไรทั้งปีนี้ที่ 3,768 ล้านบาท ประมาณการดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้สูง
แนวโน้มดีต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลัง กำไรปกติ Q3/62 คาดปรับขึ้น QoQ เป็นผลจาก 1) รับรู้กำไรเต็มไตรมาสตามสัดส่วนลงทุนที่เพิ่มเป็น 95.25% ใน GLOW (รับรู้ราว 1 เดือนในไตรมาส 2/62) 2) ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าน้ำลิก1 (NL1PC) ขนาด 26 MW (ถือ 40%) เริ่มผลิตเมื่อ 1 ก.ค.62 และโครงการ CUP #4 ขนาด 45 MW กำหนดเริ่มผลิตในไตรมาส 3/62 สำหรับ 4Q62 คาดกำไรดีต่อเนื่อง จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้า ไซยะบุรี (XPCL) 321 MW (ถือ 25%) เริ่มผลิตใน ต.ค.62 และดอกเบี้ยจ่ายลดลง หลังเพิ่มทุนแล้วเสร็จใน ต.ค.62 4) ต้นทุนก๊าซในครึ่งปีหลัง (H2/62) ลดลง
GPSC เพิ่มทุนแบบ RO กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.8819 หุ้นเพิ่มทุน โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน 1,321.4 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 56 บาท กำหนดขึ้น XR เมื่อ 3 ก.ย. การเพิ่มทุนตามแผนจะแล้วเสร็จใน ต.ค.62 ส่วนการเพิกถอนหุ้น GLOW ออกจากตลาดหุ้นจะอยู่ใน ธ.ค.62 บริษัทประเมินผลประโยชน์ที่จะได้รับ (Synergy Benefit) จากการซื้อ GLOW คือ กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และช่วยสร้างกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) ประมาณ 1,600 ล้านบาท/ปีภายในปี 67 ซึ่งมีมุมมองเป็นบวกต่อการเพิ่มทุนครั้งนี้ และเชื่อว่าจะส่งผลดีทำให้กำไรของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเพิ่มทุนอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น