นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งสำรองค่าหลักประกันการรื้อถอนแท่นผลิตสำหรับแหล่งบงกช และเอราวัณ ในช่วงที่ผ่านมารวมแล้วประมาณ 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนการลงทุน และเป็นไปตามปกติของมาตรฐานบัญชีที่จะตั้งสำรองค่ารื้อถอนไว้อยู่แล้วเมื่อมีการสร้างแท่นผลิตในแต่ละโครงการ ก็จะมีการประมาณการค่ารื้อถอนไว้ด้วยทุกครั้ง
ส่วนการที่กลุ่มเชฟรอนจากสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ถือสัดส่วนลงทุนหลักในแหล่งเอราวัณ และกลุ่มโททาลจากฝรั่งเศส ที่เป็นผู้ร่วมถือสัดส่วนลงทุนในแหล่งบงกช ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงพลังงาน เตรียมจะยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการ กรณีมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องการจ่ายค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมของทั้งสองแหล่งที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 นั้น เห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงาน
ขณะที่ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อแท่นผลิต และการวางเงินเป็นค่าหลักประกันการรื้อถอนแท่นผลิตสำหรับแหล่งเอราวัณมีอยู่กว่า 200 แท่น คิดเป็นค่าหลักประกันราว 75,000 ล้านบาท ส่วนของแหล่งบงกช จะมีอยู่กว่า 100 แท่น คิดเป็นมูลค่าหลักประกันราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดให้วางหลักประกันดังกล่าวในเดือน ต.ค.62