นายวิชัย ชุณหสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) กล่าวว่า ทิศทางค่าการกลั่น (GRM) ในไตรมาส 3/62 จะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ในระดับ 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยช่วงต้นไตรมาสค่าการกลั่นได้ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 5-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามคาดการณ์ระยะยาวของบริษัท ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากเกณฑ์ใหม่ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จาก 3.5% ในปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในน้ำมันเตาลดค่ากำมะถันลง
ขณะที่ความคืบหน้าสำหรับการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามโครงการเพิ่มกำลังการผลิตของหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบ (CDU) และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพต่าง ๆ ยังคงดำเนินการได้ตามแผน โดยในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 62 บริษัทจะปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ และยังมีโครงการเพิ่มกำลังการผลิตในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ และหน่วยผลิตปลายน้ำอื่น ๆ จาก 165,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 175,000 บาร์เรล/วัน คาดว่าจะสร้างรายได้ทันทีหลังจากเสร็จสิ้น โดยวางงบลงทุนรวมดังกล่าวไว้ที่ 256 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
"เรายอมรับว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะชะลอตัวลง เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวและดีขึ้นมากในปี 63 ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นจะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนน้ำมันต่ำลง เนื่องจากสามารถเลือกน้ำมันดิบที่หลากหลายมากขึ้น"นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายธุรกิจไปในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง คือ ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจปิโตรเคมีเพื่อเป็นโอกาสในการเพิ่มผลประกอบการของบริษัทอีกหนึ่งช่องทาง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปี 63