(เพิ่มเติม) RATCH คาดปี 51 กำไรโต 10-15%,หยุดซ่อมใหญ่โรงไฟฟ้าชุด 3 ช่วงก.พ.-พ.ค.

          นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทฯตั้งเป้ามีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 50 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์เพิ่มขึ้น ขณะที่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงอุปกรณ์กังหันก๊าซ 2 เครื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมราชบุรีชุดที่ 3 ซึ่งเป็นการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ระหว่าง 29 ก.พ.-20 เม.ย. และ 10 เม.ย.-31 พ.ค.51 
          อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีกำลังผลิตรวม 4.3 พันเมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากจาก 3.9 พันเมกะวัตต์ปี 50 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 เมกะวัตต์ในปี 59          
          นายณรงค์ กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าปีก่อน โดยจะใช้ลงทุนในโครงการหลักคือโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์กว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนั้นใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโครงการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อการส่งออก 
          อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทยังไม่ได้รวมโครงการโรงไฟฟ้าเกาะกงในกัมพูชาซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาความเป็นไปได้ในการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
          สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าหงสาฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและรอการเซ็นสัญญากำหนดอัตราค่าไฟกับ กฟผ.ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้อย่างช้าในเดือนมิ.ย.51 นี้ และจากการเซ็นสัญญาค่าไฟทาง RATCH และ บมจ.บ้านปู (BANPU) ที่ถือหุ้นในสัดส่วน คนละ 40% จะลดการถือหุ้นลงฝ่ายละ 10% เพื่อขายให้กับพันธมิตรทางประเทศจีน
          ส่วนความคืบหน้าในโครงการผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งล่าช้าจากแผนเดิมคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้เม.ย.51 ซึ่งโครงการนี้ RATCH  ถือหุ้นอยู่ 15% 
          นอกจากนี้ แม้ว่าบริษัทจะไม่สามารถประมูลโครงการโรงไฟฟ้า IPP ได้เลยแต่ก็ยังคงขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้ 8,000 เมกะวัตต์ ในปี 59 โดยเน้นการเติบโตในต่างประเทศโดยเน้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประเทศลาวก็ยังเป็นเป้าหมายสำคัญแม้ว่าข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทย-ลาว ลาวจะให้ไทยผลิตไฟฟ้าได้ 7,000 เมกะวัตต์ จากที่ปัจจุบันผลิตไปแล้ว 6,000 เมกะวัตต์ แต่เชื่อว่าจะสามารถเจรจาขอขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้
          ในส่วนการแก้ปัญหาให้ RATCH พ้นจากสถานะรัฐวิสาหกิจ เพื่อเข้าประมูล IPP รอบหน้านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา โดยธนาคารออมสิน จะจัดตั้งกองทุนเข้ามาถือหุ้นในส่วนนี้ ทำให้บริษัทฯคงความเป็นเอกชนโดยไม่มีรัฐวิสาหกิจเข้าถือหุ้นเกินกว่า 50% เพราะปัจจุบันออมสินถือ 2.62% กฟผ. 45% และสำนักงานประกันสังคม 4.91%