ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด หลังนักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวสุดสัปดาห์ ขณะที่การเมืองในประเทศเกิดความกังวลเสถียรภาพของรัฐบาล ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ขณะที่ตลาดยังเกาะติดความคืบหน้าพัฒนาการสงครามการค้า และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป
เมื่อเวลา 15.52 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,655.09 จุด ลดลง 10.03 จุด (-0.60%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.09 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,653.46 จุด ลดลง 11.66 จุด (-0.70%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด ดูอ่อนกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเฉลี่ย 0.5% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวลงราว 100 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าหลังจากที่จีนให้ค่ากลางเงินหยวนอ่อนค่าลงไปอีก Step หนึ่ง และเรื่องของหัวเว่ยก็ยังไม่จบ รวมถึงการวิตกเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) อาจจะปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันลงอีก
นอกจากนี้ ทางด้านเทคนิคจะเห็นได้ว่าดัชนีฯรีบาวด์ได้แค่แตะเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,672 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ จากที่ยังเผชิญแรงขายอยู่ อีกทั้งบ้านเรายังเจอโมเมนตัมที่ดูไม่ค่อยดีจากปัจจัยการเมืองด้วย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 ของบริษัทในกลุ่มใหญ่ก็ไม่ดี อย่างกลุ่มปิโตรเคมีที่ออกมาต่ำกว่าคาด