นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 62 บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้การเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่จะมีรายได้โตเฉลี่ยปีละ 20% ทั้งในด้านการขยายฐานการให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ขยายพื้นที่ด้านลานจอด คลังเก็บสินค้า และ การเพิ่มรถบรรทุกหัวลาก เป็น 80 กว่าหัวลาก และหางลาก 180 หางลาก รวมถึงการเปิดกว้าง ในการเปิดรับพันธมิตร ซึ่งจะเป็นตัวสร้างให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาที่ดินในนิคมปิ่นทอง จำนวน 21 ไร่ เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากทำเลดังกล่าว ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี เพราะใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด รวมทั้งใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และใกล้มอเตอร์เวย์ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และให้บริการลูกค้าได้ในช่วงปลายปีนี้ เช่นเดียวกับพื้นที่การให้บริการที่แหลมฉบัง
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อกิจการโลจิสติกส์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งเบื้องต้นคาดจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 200-300 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจให้บริการขนส่งทางเรือ ทั้งนี้หากดำเนินการเข้าซื้อได้สำเร็จจะถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/62 มีรายได้จากการให้บริการ 295.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 15.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน 6 เดือนแรกปี 62 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 569.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน และกำไรสุทธิ 24.77 ล้านบาท ลดลง 0.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไร ซึ่งกำไรที่ลดลงนั้นสาเหตุใหญ่เกิดจากบริษัทตั้งสำรองจ่ายค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับที่ 7 พ.ศ.2562
ทั้งนี้ บริษัทมีผลการดำเนินงานในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการบริษัทมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทางทะเล เพิ่มขึ้น 19.74 ล้านบาท คิดเป็น 5.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากฐานลูกค้าเดิมของบริษัทที่มีการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้น 1.57 ล้านบาทคิดเป็น 1.04% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจการจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในเดือน ม.ค.และ ก.พ.62 กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการบางราย ย้ายฐานการขนส่ง แต่ก็ไม่กระทบต่อภาพรวมของบริษัทฯมากนัก เนื่องจาก บริษัทฯสามารถหารายได้เข้ามาชดเชยได้ในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา