นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง (BLS) ในฐานะผู้ออกและเสนอขาย DW01 เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายทำสถิติใหม่สูงสุด (All time high) โดยภาพรวมการซื้อขาย DW ทั้งระบบในเดือน ก.ค.62 ยังคงสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง มีมูลค่าการซื้อขายตลอดเดือนสูงถึง 183,647.93 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย DW เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 8,745.1 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการเสนอขาย DW ในประเทศไทย คิดเป็น 13.9% ต่อมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ
ขณะที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร DW บนหุ้นรายตัวในหุ้น PTG สูงสุดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเฉพาะใน Call DW สอดคล้องราคาหุ้นทำนิวไฮรอบปีครึ่ง รองลงมา GULF ยอดนิยมเป็นเดือนที่ 6 ในขณะที่ SET50 ยังคงได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1
"ปกติวอลุ่มเทรด DW ต่อเดือน ในปี 61 อยู่ที่ประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นมาเป็น 100,000-120,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเดือนก.ค.ที่ผ่านมาที่วอลุ่มเทรด DW สูงกว่า 180,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความนิยมใน DW ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย SET INDEX ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาปรับตัวลงประมาณ 1.06% แต่พบว่านักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร Call DW หรือใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในการซื้อ สัดส่วนสูงกว่า 70% แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง สะท้อนภาพนักลงทุนมองภาพรวมตลาดยังเป็นบวก"นายบรรณรงค์ กล่าว
นายบรรณรงค์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันจำนวน DW ที่มีการเสนอขายในตลาดมีจำนวน 1,837 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,418 รุ่นและ Put DW 419 รุ่น ถือเป็นตัวเลขสูงสุด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น จากเดือนมิ.ย.2562 มีจำนวน 1,567 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,227 รุ่นและ Put DW 340 รุ่น โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการเสนอขายทั้งสิ้น 109 ตัว เพิ่มขึ้น 3 ตัวจาก สิ้นเดือน มิ.ย. 62 ได้แก่ บริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC), บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และ บริษัท โอสถสภา (OSP)
ทางด้านมาร์เก็ตแชร์ในตลาด DW บล.บัวหลวงยังครองส่วนแบ่งเป็นผู้ออกที่มีจำนวน DW สูงสุดในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 19.92% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ และมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 68.81% ของอุตสาหกรรม รวมทั้งยังครองส่วนแบ่งเป็นผู้ออกที่มีมูลค่าการซื้อขายในเดือน ก.ค.62 สูงสุดในตลาดอยู่ที่ 43.4% สะท้อนความนิยมจากนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 อยู่ที่ 31.6% หากพิจารณาจากยอดการถือครอง DW ของนักลงทุน