(เพิ่มเติม1) ตลท.คาดบจ.เข้าตลาดได้ 30 รายจากที่ยื่น 107 ราย นัดคุย FA สัปดาห์หน้า

          นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)คาดว่า ภายในปี 51 จะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ราว 30 ราย จากจำนวนทั้งหมด 107 รายที่ยื่นขอเข้าจดทะเบียนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตั้งแต่ปีก่อน โดยแยกเป็นการขอเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จำนวน 59 ราย และเข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 48 ราย
          ด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า การจัดงานสัมมนา"IPO Focus ก้าวแรกสู่ตลาดทุน"เป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่บริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียน โดยมีบริษัทเข้ามาร่วมงาน 80 ราย เนื่องจากเกรงว่าการขอเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างๆ จะไปกระจุกตัวในช่วงปลายปี
          "เราอยากให้ทยอยเข้า เพราะว่าถ้ากระจุกตัวเข้าไปช่วงปลายปี เวลาทำ valuation จะมีปัญหาเรื่องราคา เรื่องกำลังซื้อ" นางภัทรียา กล่าว
          สำหรับบริษัทที่ยื่นจองสิทธิเข้าจดทะเบียนดังกล่าวไว้ทุกรายจะต้องเข้าจดทะเบียนภายในปี 51 เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษี
          ขณะที่นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) กล่าวว่า เท่าที่ดูบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนส่วนใหญ่รอให้ปิดงบปี 50 เสียก่อนแล้วจึงยื่นไฟลิ่งในช่วงปลายเดือน มี.ค.-เม.ย. แต่กว่าจะผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ต้องใช้เวลาราว 60-80 วัน ดังนั้น บริษัทเหล่านี้จะเข้าจดทะเบียนได้ราวไตรมาสที่ 3 
          ส่วนอีกกลุ่มที่รอปิดงบไตรมาสแรกก่อนซึ่งกว่าจะผ่านกระบวนการไฟลิ่งก็จะเข้าจดทะเบียนได้ราวไตรมาสที่ 4 แต่ยังมีบริษัทที่ปิดงบไม่ต้องงวดสิ้นปีราว รายที่ไม่ต้องรอกระจุกตัวยื่นจดทะเบียนเหมือนบริษัทอื่นๆ
          "ส่วนใหญ่รอปิดงบปี กว่างบปีจะออกแล้วรอเข้ากระบวนการทั้งหมด กว่าจะเข้าตลาดก็ตกไตรมาส 3 และ 4 ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น แต่กลัวว่าจะมากระจุกตัวในไตรมาส 4" นายชนิตร กล่าว
          ในเดือน มี.ค.51 คาดว่า จะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด SET จำนวน 2 ราย ได้แก่ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอร์เรชั่น และ บมจ.น้ำประปาไทย(TTW) ส่วนในเดือน เม.ย.คาดว่าจะมี บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์(SGP), บมจ.ซาบีน่า, บมจ.พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง(PM) และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์
*ก.ล.ต. ย้ำก่อนเข้าตลาดวางแผนเป็นบจ.ที่ดี-เรียก FA หารือสัปดาห์หน้า
          นายชาลี จันทนยิ่งยง  ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ต้องการให้บริษัทที่ยื่นจองสิทธิเหล่านี้ได้เข้าจดทะเบียนได้รวดเร็วขึ้น โดยเห็นบางรายมีความพร้อมแล้ว ก็น่าจะรีบเข้าได้ ไม่อยากปล่อยให้ไปเข้าในปลายปี ราคาคาขายอาจไม่ดี 
          ก.ล.ต.ได้เน้นย้ำกับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาด โดยเฉพาะการเป็นบริษัทมหาชน แตกต่างจากบริษัทที่ดำเนินการลักษณะครอบครัว ได้แก่ การแยกให้ชัดเจนระหว่างเงินของบริษัทกับเงินส่วนตัว  หรือ ระวังเรื่องการใช้กระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา เพราะเมื่อเป็นบริษัทในตลาดแล้ว เงินที่นำมาใช้เป็นเงินผู้ถือหุ้นอื่นที่ไม่ใช่จากครอบครัวเดียวกัน 
          นอกจากนี้ เรื่องของระบบบัญชี ทำให้ถูกต้องจะยิ่งตรวจสอบได้ง่าย ซึ่งจะมีผู้ตรวจสอบบัญชี และ ก.ล.ต.เข้าไปดูแล , ระบบควบคุมภายในที่ดี  และ การทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของกรรมการ และ ผู้บริหาร รวมถึงเรื่องธรรมาภิบาล(CG) 
          "เปรียบเทียบให้เขาฟังว่า การจดทะเบียนในตลาดก็เหมือนกับการจดทะเบียนสมรส คือให้เขานึกถึงแผนสำหรับชีวิตแต่งงาน ไม่ใช่วางแผนแค่วันแต่งงาน ก็เหมือนกับการเข้าตลาด ไม่ใช่แค่ทำ IPO การขายหุ้นวันแรก แต่ก็ต้องดูถึงชีวิตการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ดีควรจะเป็นอย่างไร"นายชาลี กล่าว 
          ปัจจุบัน ก.ล.ต.มีจำนวน 14 บริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาไฟลิ่ง 
          นายชาลี กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าตลาดหลักทรัพย์และก.ล.ต.จะสัมนาร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)เพื่อทำความเข้าใจในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้มีหลายรายไม่กล้ายื่นไฟลิ่งเข้ามา เพราะกลัวจะโดนตัดแต้มตามเกณฑ์ใหม่ 
          ส่วนนางภัทรียา กล่าวว่า การหารือร่วมกับ FA เพื่อต้องการให้ FA ช่วยรับผิดชอบ โดยอุตสาหกรรมดูแลกันเอง เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาไฟลิ่งของทางการจะได้ร่นระยะเวลา  จากปีก่อนที่ใช้ระยะเวลาพิจาณาไฟลิ่งประมาณ 100-120 วัน และจะช่วยยกระดับมาตรฐานของ FA ถ้าใครทำตามมาตรฐานดีอยู่แล้วก็ไม่วิตกจะโดนตัดแต้ม