นางวรทิพย์ ฤกษ์พิบูลย์ ผู้จัดการส่วนอาวุโสการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี(PDI) คาดว่า ราคาเฉลี่ยสังกะสีปีนี้อยู่ที่ 2.0-2.5 พันเหรียญต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน จากการมีกำลังการผลิตสังกะสีมากกว่าความต้องการของตลาดโลก โดยในปี 50 ราคาสังกะสีเฉลี่ยอยู่ที่ 3,242 เหรียญต่อตันลดลงจากปี 49 ที่มีราคาเฉลี่ย 3,275 เหรียญต่อตัน
"มองว่าแนวโน้มราคาสังกะสียังคงปรับลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 4/50 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,600 เหรียญต่อตัน เพราะว่าความต้องการในตลาดโลกลดลง แต่ราคาทั้งปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 2,000-2,500 เหรียญต่อตัน ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของราคาสังกะสี คงไม่ต่ำไปอยู่ระดับ 1,000 เหรียญ เพราะต้นทุนการผลิตเปลี่ยนแปลง"นางวรทิพย์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังคาดว่าปี 51 ปริมาณการผลิตสังกะสีจะใกล้เคียงจากปีก่อนที่ผลิตได้ 1 แสนตัน เพราะบริษัทใช้กำลังผลิตได้สูงสุดแล้ว แต่ที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถผลิตแร่สังกะสีได้เอง เนื่องจากอายุประทานบัตรเหมืองที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หมดอายุลงเมื่อ ต.ค.50 และต้องนำเข้าสังกะสี ทำให้อัตรากำไรปรับตัวลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ไตรมาส 1/51 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนได้ หากบริษัทยังไม่ได้ประทานบัตร
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าบริษัทจะได้รับการต่ออายุประทานบัตรเหมืองเร็วๆนี้ ขณะนี้รอรมว.อุตสาหกรรมพิจารณาอนุมัติ
สำหรับผลประกอบปี 51 นางวรทิพย์ กล่าวว่ายังไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องรอเรื่องการได้รับประทานบัตรเหมืองที่แม่สอดก่อน จึงจะสามารถประเมินได้ แต่บริษัทก็ได้เตรียมแผนลงทุนประมาณ 300 ล้านบาทในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานเพื่อรีไซเคิลสังกะสีกลับมาใข้เป็นวัตถุดิบ เพื่อลดต้นทุนการผลิตที่บริษัทต้องนำเข้าสังกะสี โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในครึ่งหลังปี 51
ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้ส่วนใหญ่จะมาจากในประเทศ เพราะความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันสัดส่วนการส่งออกสังกะสีไปจำหน่ายจะลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 15% จากปีที่แล้วภาวะในประเทศชะลอตัวจึงได้เพิ่มสัดส่วนการส่งออกแม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาขายเฉลี่ยเมื่อแปลงเป็นเงินบาทมีรายได้ลดลงประมาณ 1.12 แสนบาท/ตัน หรือลดลงประมาณ 10%
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--