ราคาหุ้น BDMS ร่วง 2.06% เมื่อเวลา 10.05 น.มาที่ 23.80 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 300.98 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 24.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23.50 บาท
บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 1,865.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,042.56 ล้านบาท ลดลง 8.66% ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม เนื่องจากการขายเงินลงทุนทั้งหมดใน บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ในไตรมาส 1/62
ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 19,637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาส 2/61 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาล 7% ตามการเพิ่มขึ้นของผู้ปวยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประกอบกับการเติบโตที่ดีของโรงพยาบาลนอกกรุงเทพและปริมณฑล และการเติบโตต่อเนื่องของลูกค้ากลุ่มประกันสุขภาพ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 10,304.30 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,961.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% เนื่องจากมีการบันทึกรายการพิเศษ 5,514 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการกำไรการขายหุ้น RAM 6,094 ล้านบาทในไตรมาส 1/62
นายธวัชชัย อัศวพรไชย รองกรรมการผู้จัดการ บล.เอเอสแอล เปิดเผยว่า แรงขายหนาแน่นออกมาในหุ้น BDMS ช่วงเช้าวันนี้เกิดจาก Panic sell ภายหลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/62 ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ภาพรวมผลประกอบการงวด 6 เดือนของปีนี้ถือว่ายังเติบโตได้ดี
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯยังไม่มีการประมาณการกำไรปีนี้ของ BDMS เพราะเชื่อว่าทิศทางผลประกอบการในครึ่งปีหลังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจเข้ามากระทบ อาทิ รัฐบาลจะเข้ามาใช้นโยบายแทรกแซงการดำเนินงานกลุ่มโรงพยาบาลหรือไม่ รวมถึงผลกระทบปริมาณคนไข้ต่างชาติที่อาจจะลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวลดลงมาที่บริเวณ 23.60-23.30 บาท มองเป็นโอกาสเข้าทยอยซื้อสะสม เพราะมูลค่าพื้นฐานยังมีอัพไซด์ที่น่าสนใจลงทุนในระยะกลางและยาว แต่หากราคาทะลุระดับ 24.30 บาทได้มองเป็นสัญญาณ"ซื้อ"ทางเทคนิคทันที
"ราคาหุ้น BDMS โดนขายเช้านี้เป็นผลจาก Panic sell งบไตรมาส 2/62 เท่านั้น เป็นแค่ระยะสั้นๆ เพราะจะเห็นว่ามีแรงซื้อคืนสลับเข้ามาด้วย ถือเป็นจังหวะที่ดีถ้าสนใจเข้าซื้อสะสมเพื่อลงทุนเพื่อหวังอัพไซด์ในระยะถัดไป"นายธวัชชัย กล่าว
ปัจจุบันฝ่ายวิจัยฯ ประเมินราคาพื้นฐานหุ้น BDMS ที่ 29.10 บาท โดยคาดรายได้เติบโตราว 6-8% จากการเติบโตของกลุ่มคนไข้นอกพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันสัดส่วนกรุงเทพฯต่อนอกกรุงเทพอยู่ที่ 57:43 รวมถึงการเติบโตในส่วนของคนไข้ต่างชาติ โดยเฉพาะ UAE และตะวันออกกลางที่เติบโตขึ้นได้จากราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัว โดยสัดส่วนรายได้คนไทยต่อต่างชาติปัจจุบัน คือ 67:33 จากเดิมคือ70:30
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปีนี้จะมี Operating expenses ที่เติบโตสูงกว่ารายได้ แต่ยังเชื่อว่ากำไรจากการเนินงานของทั้งปีจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.65%
ด้าน บล.เคจีไอ ระบุในบทวิจัยฯว่า Downside ของ BDMS ค่อนข้างจำกัด โดยคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงที่กำไรแข็งแกร่งตามฤดูกาลในไตรมาส 3/62 ,การทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการรักษาพยาบาลโรคยากและซับซ้อนมากขึ้น ,คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ในขณะที่ไม่มีแผนลงทุนก้อนใหญ่ในเร็วๆ นี้