นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 10,000 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 66 แต่ก็มีโอกาสจะทำได้มากกว่าเป้าหมาย หลังจากปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือแล้ว 9,222 เมกะวัตต์ และยังอยู่ระหว่างเจรจาหากำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ทั้งในและอาเซียน 1-2 โครงการคาดว่าจะสรุปได้ในปีนี้ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป
ขณะเดียวกันจะมีโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 3 โครงการที่จะหมดอายุในปี 63-70 ได้แก่ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ขนาด 700 เมกะวัตต์หมดอายุในเดือนก.ค.63 , โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี ขนาด 1,470 เมกะวัตต์ หมดอายุในปี 68 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี ขนาด 2,175 เมกะวัตต์ หมดอายุในปี 70
ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 6,937 เมกะวัตต์ ซึ่งรวม 2 โครงการที่ COD แล้วในปีนี้ 77.23 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์คอลลินส์วิลล์ในออสเตรเลีย และโครงการเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่นในไทย ขณะที่ยังเหลืออีก 1 โครงการที่จะ COD ในปีนี้ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียนเซน้ำน้อยในลาว กำลังผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 102.5 เมกะวัตต์ที่จะ COD ในเดือนธ.ค.นี้ ทำให้ทั้งปี 62 จะมีกำลังผลิตใหม่ที่ COD รวม 180 เมกะวัตต์
ส่วนในปี 63 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ COD รวม 400.73 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้านวนครส่วนขยาย ,โรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเลกเตอร์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดินในออสเตรเลีย