ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ (15 ก.พ.) เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องนักลงทุนได้ส่งแรงซื้อทำกำไรเข้ามาในตลาด และขานรับการเปิดผยผลประกอบการของดีบีเอส กรุ๊ป และเซมบ์คอร์ป มารีน
โดยเมื่อช่วงเช้าดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วงลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงหลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะซบเซาลงในปีนี้ แต่ดัชนีได้ดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค
หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป เป็นปัจจัยที่หนุนให้ดัชนีดีดตัวขึ้นจากที่ได้ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเคลื่อนไหวของดีบีเอส กรุ๊ปในการเพิ่มสำรองหนี้สูญในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) เป็น 90% แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ผลกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4 ลดลง 17.6% แตะระดับ 491 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
"ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เกิดขึ้นหลังจากที่ดีบีเอส กรุ๊ป ได้ตัดบัญชีหนี้สูญ และเซมบ์คอร์ป มารีนได้ประกาศภาวะขาดทุนจากต่างประเทศ" เค อาจิธ นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์ เฮียนกล่าว
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสิงคโปร์จะเสนองบประมาณต่อรัฐสภายังเป็นปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์เพิ่มขึ้นในวนนี้ แม้ว่าจะมีกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลอาจจะไม่ปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็ตาม
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์บวก 43.09 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 3,088.68 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 3,002.53 และ 3,094.60 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.9 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--