นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เปิดเผยว่า ในปี 62 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ 19,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อน สำหรับครึ่งปีหลังมีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบและแนวสูง
โครงการแนวราบ 8 โครงการ มูลค่าราว 7,300 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ เพฟ, เวนิว โฟลว์, บางกอก บูเลอวาร์ด และ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ราคาตั้งแต่ 4-30 ล้านบาท รวมทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ วี-คอมพาวด์ และ เวิร์ฟ ราคา 2-6 ล้านบาท ทั้ง 8 โครงการ ตั้งอยู่ในหลากหลายทำเล เช่น พระราม 5, รังสิต, เสรีไทย, และบางนา เพื่อตอบรับกำลังซื้อโครงการแนวราบที่ยังแข็งแกร่งในทุกทำเลและทุกระดับราคา
ส่วนโครงการแนวสูง 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ได้แก่ 1. THE CREST PARK RESIDENCES ใกล้ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท พัฒนาโดยบริษัท เอสซี เอ็นเอ็นอาร์ วัน จำกัด (SC NNR1 Co.,Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SC กับ Nishitetsu Group จากภูมิภาคคิวชูของญี่ปุ่น และ 2. SCOPE THONGLOR ติด BTS สถานีทองหล่อ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท พัฒนาโดยบริษัท สโคป ทาวเวอร์ จำกัด (Scope Tower Co., Ltd.)
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีโครงการสำหรับขายต่อเนื่องอีก 46 โครงการ มูลค่ารวม 41,900 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 60% และแนวสูง 40% ขณะที่บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 10,600 ล้านบาท ซึ่ง 57% จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้จากทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง โดยมีคอนโดฯ 2 โครงการที่จะสร้างเสร็จและเริ่มโอนในครึ่งปีหลัง คือ โครงการ 28 CHIDLOM ใกล้ BTS ชิดลม เริ่มโอนปลายไตรมาส 3/62 และ โครงการ CENTRIC RATCHAYOTHIN ใกล้ BTS รัชโยธิน เริ่มโอนปลายไตรมาส 4/62
นายณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมสำหรับแผนรุกขยายธุรกิจใหม่ว่า SC มีแผนขยายพอร์ต recurring income เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยวางงบลงทุน 3,000 ล้านบาทสำหรับขยายธุรกิจใหม่ โดยจะพัฒนาโรงแรมในกลุ่มราคา mid-to-upscale ทำเลกรุงเทพและเมืองท่องเที่ยว 7 แห่ง ภายใน 3 ปี (62-64) เพื่อเพิ่มสัดส่วนของกำไรสุทธิจาก recurring income ให้มากกว่า 1 ใน 4 หรือ 25%
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 6,698 ล้านบาท สัดส่วนคือ 93% จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และ 6% จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและบริการ รายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 6,236 ล้านบาท มาจากโครงการแนวราบ 5,202 ล้านบาท เติบโต 16% (yoy) และโครงการแนวสูง 1,034 ล้านบาท กำไรสุทธิ 598 ล้านบาท และมียอดขายรวม 7,023 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิ.ย.62 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม 45,150 ล้านบาท และ 28,984 ล้านบาท ตามลำดับ