น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร (TK) กล่าวว่า TK กำลังเร่งขยายธุรกิจเพิ่มเติม ตามแผนที่จะเพิ่มมีสัดส่วนลูกหนี้จากการดำเนินธุรกิจจากต่างประเทศ โดยภายในสิ้นปี 62 บริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้จากต่างประเทศอย่างน้อย 20% ของลูกหนี้เช่าซื้อทั้งหมด โดยบริษัทกำลังเร่งขยายตลาดในตลาดต่างประเทศเพิ่มทั้งลูกหนี้เช่าซื้อและรายได้ ด้วยการเพิ่มสาขารวม 9 สาขา คือเพิ่มอีก 6 สาขาในกัมพูชา เพื่อให้ครบ 12 สาขา และเพิ่มอีก 3 สาขาใน สปป. ลาว รวมเป็น 6 สาขา นอกจากนี้ TK ได้เดินหน้าการประกอบกิจการ Micro Finance ในเมียนมาภายใต้ชื่อ บริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 3/62
สำหรับงบการเงินสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด 30 มิ.ย.62 มีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1,942.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% ในขณะที่รายจ่าย 1,710.3 ล้านบาท ลดลง 8.3% ลูกหนี้เช่าซื้อในประเทศลดลง 9.9% แต่ลูกหนี้เช่าซื้อต่างประเทศเติบโต 26.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน
ในช่วงครึ่งปีแรกลูกหนี้เช่าซื้อรวมลดลง 6.7% เนื่องจาก TK มีนโยบายเร่งตัดหนี้สูญลูกหนี้ที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งมีนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อในประเทศตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 61 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ลูกหนี้เช่าซื้อจักรยานยนต์ในต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนที่ 13.7% หรือ 1,122.0 ล้านบาท
"ผลประกอบการภาพรวมในครึ่งปีแรกของปีนี้มีการทรงตัวของรายได้ ซึ่งมีสาเหตุหลักการหดตัวของจำนวนลูกหนี้เช่าชื้อตามตลาดรถจักรยานยนต์ ประกอบกับการที่บริษัทฯ เริ่มเน้นเรื่องของความเข้มงวดในขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ และเร่งตัดหนี้สูญลูกหนี้ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ส่วนของลูกหนี้เช่าซื้อจักรยานยนต์ในต่างประเทศจากกัมพูชา และ สปป. ลาว ณ ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็น 13.7% ของจำนวนลูกหนี้เช่าซื้อรวมของบริษัทฯ" น.ส.ปฐมา กล่าว
ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่า ในปีนี้ TK ได้เดินหน้าการประกอบกิจการ Micro Finance ในเมียนมาภายใต้ชื่อบริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการแล้ว จะเริ่มทำธุรกรรมต้นเดือน ก.ย.62
ขณะเดียวกัน TK ได้เปิดสาขาเพิ่มในราชอาณาจักรกัมพูชา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 สาขา จะมีการเปิดเพิ่มอีก 6 สาขาในปีนี้ ส่วนที่ สปป. ลาว ปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาในปีนี้ มั่นใจว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%
นายประพล กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 894,148 คัน ลดลง 4.3% โดยในช่วง 6 เดือนแรก มียอดขายสูงกว่าในช่วงเดียวกันเพียง 1 เดือน ในขณะที่ตลาดรถยนต์ในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 523,770 คัน เพิ่มขึ้น 7.1% โดยในช่วง 6 เดือนแรกมีเพียง 1 เดือนที่ยอดขายรายเดือนน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศลดลง 10.0% และลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ลดลง 15.7% ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 26.0%
ด้านผลประกอบการของ TK ครึ่งปีแรกของปี 62 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.0% จาก 1,923.5 ล้านบาทในปี 61 เป็น 1,942.2 ล้านบาทในปี 62 แต่ยังคงสามารถทำกำไรได้ 230.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากพิจารณาผลประกอบการจากกิจการในต่างประเทศของ TK ในครึ่งปีแรก พบรายได้เติบโต 109.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มทั้งในกัมพูชา และ สปป.ลาว
"TK เน้นปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน และเร่งตัดหนี้สูญ เพื่อควบคุมคุณภาพของลูกหนี้ภายในประเทศที่มีการแข่งขันดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศลดลง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมมีสัญญาณที่ภาคธุรกิจต้องจับตามองและเตรียมตั้งรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ครึ่งปีหลังคาดการณ์ตลาดในประเทศจะชะลอตัวจากภัยแล้ง ภาคส่งออกหดตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ส่งผลให้การเติบโตของ GDP ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งราคาพืชผลการเกษตรและผลผลิตลดลงต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตไม่มาก" นายประพลกล่าว