นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) เปิดเผยว่า ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส โดยทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือน ต.ค.และ พ.ย.นี้เป็นต้นไป และโครงการบ้านแนวราบ
ณ วันที่ 31 ก.ค.62 บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 54,898 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 9,543 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมรวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 45,355 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี 4,899 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 1,873 ล้านบาท และคอนโดร่วมทุน 40,456 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ประมาณ 4,111 ล้านบาท โดยหนึ่งในคีย์ไดรฟ์ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส
นายอนุพงษ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาครึ่งปีหลังกำลังซื้อมีแนวโน้มกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงกลางบน ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมราคาเฉลี่ยไม่เกิน 200,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร สินค้าแนวราบมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ระดับราคา 3-10 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทยังมีโครงการรอเปิดตัวใหม่ในแผนอีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,800 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิวเลี่ยน (โครงการร่วมทุน) มูลค่า 4,700 ล้านบาท เปิดในไตรมาส 4 และ LIFE สาทร เซียร์รา (โครงการร่วมทุน) มูลค่า 6,300 ล้านบาท เตรียมเปิดในต้นเดือน ก.ย.นี้ และแนวราบอีกจำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวม 15,800 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,690 ล้านบาท และทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 7,110 ล้านบาท
ทั้งนี้ การปรับแผนเปิดโครงการใหม่ทำให้ปี 62 เอพีเปิดตัวโครงการใหม่รวม 35 โครงการใหม่ มูลค่า 57,000 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 17 โครงการ มูลค่า 14,840 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 12 โครงการ มูลค่า 15,060 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 27,100 ล้านบาท
"ภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งอายุของคนซื้อที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ ที่จะสร้างสรรค์ให้สินค้ามีความแตกต่าง โดดเด่นโดนใจผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกช่วงชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์และครบวงจรที่สุด ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การเติมเต็มการส่งมอบคุณภาพชีวิตแก่คนในสังคม
อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการยกระดับรูปแบบการดำเนินงานสู่การสร้างประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วน ด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากที่สุด" นายอนุพงษ์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนแรก บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 24,060 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.7% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 14,000 ล้านบาท เฉลี่ยยอดขายต่อสัปดาห์ประมาณ 451 ล้านบาท ซึ่งถือว่าโตเกินจากเป้าหมายที่วางไว้อย่างมาก และคอนโดมิเนียมมูลค่า 10,060 ล้านบาท
ยอดขายส่วนใหญ่มาจาก 4 โครงการใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วอย่าง 1) Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช 2) Aspire อโศก-รัชดา 3) RHYTHM เอกมัย-เอสเตท และ 4) The Address สยาม-ราชเวที ที่ยังคงได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก เอพีสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโด (100% JV) ได้สูงถึง 16,160 ล้านบาทซึ่งเป็นรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้านกำไรสุทธิ (Net Profit) สูงถึง 1,565 ล้านบาท