นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เปิดเผยว่า บริษัทมองหาโอกาสในการลงทุนและขยายการลงทุนด้านพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMVT โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) 2-3 โครงการ คาดจะเห็นความชัดเจน 1 ในโครงการ กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม ลักษณะการร่วมทุน ขณะที่ในประเทศอยู่ระหว่างเจรจาใน 1-2 โครงการในลักษณะการเข้าซื้อกิจการ เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโต เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/62 พลิกมีกำไร 5.90 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 26.53 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตร 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสหกรณ์ผู้ผลิต และผู้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อ.กระแสสินธุ์ ,โครงการสหกรณ์การเกษตรวิเชียรบุรี และโครงการสหกรณ์การเกษตรกะทูน กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ ซึ่งทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นสนับสนุนการเติบโต
"สถานการณ์ทุกอย่างตอนนี้ดีขึ้น เราพยายามปรับตัวและเพิ่มกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ เพื่อทำให้ผลประกอบการดีขึ้น ในครึ่งแรกปีนี้ปัจจัยหลักที่สนับสนุน คือโครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 โครงการ ส่วนที่เหลือปีนี้งานในมือที่มีจะมีความชัดเจน โครงการน้ำประปาแสนดินใน สปป.ลาว มูลค่า 80 กว่าล้านบาทจะเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ โดยการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 2,160,300 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วสามารถรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าที่เมียนมา 200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของรายได้ในอนาคต"นายวิชญ์ กล่าว