นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปีนี้ให้กลับมาเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับภาพรวมครึ่งปีแรกที่มีผลกำไรเล็กน้อย เนื่องจากแผนงานในปีนี้ได้ตั้งเป้ารายได้ครึ่งปีหลัง คิดเป็นสัดส่วน 70% ของเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีที่ 4,450 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เพื่อเร่งยอดขาย
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ.แกรททิทูด อินฟินิท (GIFT) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดหาวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องสำอาง พัฒนา GIFT Collection ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องสำอางกว่า 20 รายการ ปัจจุบันมีสินค้าที่จำหน่ายแล้ว 5 รายการ ส่วนที่เหลือจะทยอยจำหน่ายปลายปีนี้ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง และเข้าร่วมทุนกับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาด
นอกจากนี้ บริษัทได้เจรจาซื้อเวลาโฆษณาจากช่อง 33 ทั้งช่วงเช้า กลางวัน เย็น และค่ำ ในรายการต่างๆ อาทิ ข่าวเช้า ข่าวเที่ยง ละครรอบเย็น ฯลฯ เพื่อเพิ่มยอดขายจากการออกอากาศรายการแนะนำสินค้า (โฮมช้อปปิ้ง) และเตรียมเริ่มออกอากาศโฮมช้อปปิ้งช่องใหม่ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 54 ภายในเดือน ต.ค.นี้
นายวิเชียร มานะพงศ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 ได้รับผลกระทบจากยอดขายสินค้าผ่านรายการโฮมช้อปปิ้งที่บริษัททำสัญญาเช่าเวลาออกอากาศทางทีวีดิจิทัลช่อง 19 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากช่อง 19 มีมติคืนช่องให้ กสทช.และจะยุติการแพร่ภาพตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.62 เป็นต้นไป ส่งผลให้เรตติ้งผู้ชมในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาปรับลดลงอย่างมาก ประกอบกับมีช่วงเวลางดเผยแพร่รายการปกติ รวมถึงรับรู้ผลขาดทุนในบริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่ TVD ถือหุ้น 25% ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 1,073.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 926.92 ล้านบาท แต่มีผลขาดทุนสุทธิ 4.80 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 7.23 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/62 ผลการดำเนินงานของบริษัทอื่นๆ ในเครือ TVD ได้แก่ บริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัท ทีวีดีเซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด บริษัท ลาสไมล์ ไดเร็ค จำกัด และบริษัท เมจิก พีวอท จำกัด สามารถสร้างผลกำไรได้ทุกบริษัท หลังจากได้พัฒนาบริการใหม่ๆ ปรับปรุงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทสามารถทำกำไรได้เล็กน้อย ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและอัตราหนี้สินต่อครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1.06 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.09 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 2,104.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,823.74 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การทำสัญญาเช่าเวลาออกอากาศจากช่อง 19 จะสิ้นสุดลงนั้น ในเดือน ก.ค.-ส.ค.62 บริษัทสามารถบรรลุการเจรจาลดค่าเช่าเวลาจากช่อง 19 ดังนั้น ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานส่วนนี้จะปรับลดลงในไตรมาส 3/62 และตั้งเป้าทำผลการดำเนินงานให้กลับมามีกำไรได้ตามแผนที่วางไว้