MK เตรียมเปิด 4 โครงการแนวราบใน H2/62 รวมกว่า 4.56 พันลบ.,ศูนย์ Wellness Center ให้บริการกลางปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 15, 2019 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,560 ล้านบาท รวมถึงมีแผนลงทุนในโครงการสถานพยาบาล สถานฟื้นฟู และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Wellness Center) ซึ่งมุ่งเน้นธุรกิจที่เป็นภาคการแข่งขันของประเทศไทยตามแผนธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในระยะยาวโดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 63

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 บริษัทฯและบริษัทย่อยสามารถทำรายได้รวมถึง 1,151.1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 929.6 ล้านบาท และเป็นส่วนของธุรกิจเช่าและบริการอีก 79.8 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 62 บริษัทสามารถทำรายได้รวมครึ่งปีถึง 2,970.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 323.6 ล้านบาท หรือ 12.2% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 61และมีกำไรสุทธิ 258.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

รายได้หลักมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังคงดำเนินการเป็นไปตามแผนอย่างต่อเนื่อง พร้อมลุยเปิดอีก 4 โครงการในครึ่งปีหลัง ในส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจให้เช่าและบริการ มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 2 โครงการหลักของกลุ่มบริษัทฯ คือ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ซึ่งมีผู้เช่าให้ความสนใจจำนวนมาก มี Occupancy rate กว่า 90% และโครงการ พาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 ที่สามารถปล่อยเช่าได้แล้วมากกว่า 75% ส่งผลให้รายได้สะสมในครึ่งปีแรกของธุรกิจทั้ง 2 นี้ อยู่ที่ 156.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 30.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นายวรสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของธุรกิจสนามกอล์ฟและธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์นั้น รายได้จากกิจการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในช่วง 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นกว่า 20% ขณะที่ธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

จากการที่ธุรกิจให้เช่าและธุรกิจบริการของกลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจให้เช่าและธุรกิจบริการในไตรมาสนี้ ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30.3% โดยคาดว่าสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจฝั่งเพื่อขายกับฝั่งเพื่อเช่าและการบริการ จะมีสัดส่วนเป็น 50/50 ตามแผนธุรกิจ 5 ปีอย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ