นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายคลังสินค้าให้เช่าแบบ Buit to Suit ในงวดปี 62/63 (1 ต.ค.62-30 ก.ย.63) ไว้ที่ 150,000 ตารางเมตร สูงขึ้นกว่างวดปี 61/62 (1 ต.ค.61-30 ก.ย. 62) ที่บริษัทสามารถทำยอดขายเกินเป้าหมาย 120,000 ตารางเมตร มาอยู่ที่ 135,000 ตารางเมตร
ปัจจัยหนุนสำคัญคือในงวดปีนี้มาจากการที่ได้พันธมิตรรายใหญ่ คือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล เข้ามาเช่าพื้นที่คลังสินค้าแบบ Buit to suit จำนวน 75,000 ตารางเมตร ระยะเวลาการเช่า 15 ปี มีกำหนดส่งมอบภายในเดือน ส.ค. 63 โดยมูลค่าเงินลงทุนเฉพาะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกว่า 1 พันล้านบาท ยังไม่รวมการวางระบบภายในคลังสินค้า
ขณะที่แนวโน้มการเช่าคลังสินค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 63 ยังเห็นความต้องการเช่าคลังสินค้าของผู้ประกอบการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะเกิดการชะลอตัว แต่ผู้ประกอบการต่างๆ มีแผนขยายคลังสินค้าที่มีความทันสมัยและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทสามารถตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะได้นำโซลูชั่นที่เป็นเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการคลังสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสินค้าอุปโภค-บริโภค ในรูปแบบ FMCG เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นความรวดเร็ว
สำหรับพื้นที่คลังสินค้าบางพลี จ.สมุทรปราการ ของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และยังเหลือพื้นที่ให้เช่าอีกเพียงเล็กน้อย 50-60 ไร่ ซึ่งบริษัทได้แนะนำลูกค้าบางรายที่สนใจเช่าคลังสินค้าในพื้นที่ย่านบางนา-สมุทรปราการให้ทยอยหันมาเช่าพื้นที่ในทำเลบางนา 32 พื้นที่ 4,300 ไร่ ซึ่งจะพัฒนาเป็นทาวน์ชิป โดยบริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นคลังสินค้าให้เช่าในเฟสแรกภายในปี 63 พื้นที่ 1,000 ไร่ หากลูกค้าต้องการทำเลพื้นที่คลังสินค้าที่ขนส่งสะดวกมากขึ้นก็สามารถมาเช่าในพื้นที่ใหม่ได้ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้ารายใหญ่เพื่อเตรียมออกแบบคลังสินค้าแบบ Buit to suit ซึ่งจะช่วยเข้ามาสนับสนุนยอดขายคลังสินค้าให้เช่าในปี 63
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนการพัฒนาพื้นที่บางนา 32 ในเฟส 2 ซึ่งจะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัย และโครงการ Business Center โดยที่ในส่วนโซนที่อยู่อาศัยจะมอบหมายให้ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เข้ามาเป็นผู้พัฒนา ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ GOLD เป็นวันสุดท้ายในวันนี้ (15 ส.ค. 62) หลังจากนี้จะมีการพิจารณาว่าจะเพิกถอน GOLD ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่ พร้อมกับวางแผนการดำเนินงานของ GOLD ที่จะมาเสริมศักยภาพให้กับบริษัทในโครงการอื่นๆในอนาคต
นายโสภณ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนการปรับเพิ่มสัญญาเช่าที่เป็นระยะยาวมากกว่า 10 ปีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นสัญญาที่มีความแน่นอนในเรื่องรายได้จากค่าเช่า และสามารถขายพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ให้กับลูกค้าได้ โดยปัจจุบันมีจำนวนพื้นที่เช่าคลังสินค้าที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวราว 700,000 ตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 2.7 ล้านตารางเมตร พร้อมกันนั้น บริษัทยังตั้งเป้าจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของผู้ให้บริการในธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าแบบ Buit to Suit ภายในปี 63 ซึ่งบริษัทมีแผนการขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก