นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก โดยจะมาจากธุรกิจศูนย์การค้าที่คาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเติบโตเฉลี่ย 3-4%
ขณะที่บริษัททยอยเปิดโซนศูนย์การค้าที่ได้ปรับปรุงพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น G และชั้น 2, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ที่มีการเปิดโซนใหม่ และอาคารจอดรถ รวมทั้งเตรียมเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาวิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกของไทย ทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะสามารถรองรับลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้มากกว่า 6 ล้านคนต่อปี ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
บริษัทยังคาดว่ากำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยส่วนหนึ่งมาจากมาตรการภาครัฐที่จะมีการสนับสนุนกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ขณะที่ไตรมาส 4/62 ถือว่าเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่
สำหรับการปรับขึ้นค่าเช่านั้น ปกติบริษัทพิจารณาปรับขึ้นประมาณ 3-5% ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมโดยล้อม แต่ขณะนี้ยังคงรักษาระดับค่าเช่าให้ตามเดิมไปก่อน
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์มากขึ้น ได้แก่ ESCENT เชียงใหม่ อาคาร 2, ESCENT นครราชสีมา, ESCENT VILLE เชียงราย และ ESCENT อุบลราชธานี รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม ฟีลพหล 34 (PHYLL PAHOL 34) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกมีรายได้แล้วที่ 600 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ภายหลังจากที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เบย์วอเตอร์ จำกัด จาก บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ในสัดส่วน 50% นั้น เบย์วอเตอร์ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูส ปัจจุบันบริษัท อยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนในโครงการดังกล่าว และหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนด้วย คาดจะสรุปแผนงานได้ในครึ่งปีแรกของปี 63 และคาดจะเปิดให้บริการได้ในปี 65-66
ส่วนความคืบหน้าโครงการซุปเปอร์ ทาวเวอร์ ย่านพระราม 9 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างทบทวนแผนถึงความคุ้มค่าการลงทุน และรูปแบบของโครงการ
นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการเสนอสินทรัพย์เพื่อขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ขนาด 8,000-12,000 ล้านบาท โดยขณะนี้กองทรัสต์ฯ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหน่วยเพื่ออนุมัติการทำรายการได้ในไตรมาส 4/62 ซึ่งบริษัทคาดหวังจะบันทึกเข้ามาเป็นรายได้ในปี 63