นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 1,045.81 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 5,312 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังราว 800 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมประมูลงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท และคาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะมีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐมีความจำเป็นเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการลงทุนต่างๆ ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/62 ภาครัฐน่าจะมีความชัดเจนการเปิดประมูลโครงการดังกล่าว และเริ่มก่อสร้างได้ในปี 63 ซึ่งเชื่อว่าบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งงานอย่างแน่นอน
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 62 จะให้ความสำคัญและจะขยายไปในธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ การให้บริการโครงข่าย (Data Service) โดยใช้โครงข่าย Interlink Fiber Optic ซึ่งก่อสร้างโดยนำเทคโนโลยี Internet Protocol (IP) ที่ทันสมัยและเป็นพื้นฐานสำหรับการรับ-ส่งข้อมูล โดยอาศัยเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ Dense Wavelength Division Multiplexing (DWDM) และ Multi-Protocol Label Switching (MPLS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเพิ่มขีดความสามารถของระบบโครงข่ายและสามารถให้บริการรับ-ส่งข้อมูลได้ครบทุกรูปแบบ
การให้บริการติดตั้งโครงข่าย (Installation) การให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้บริการด้านการให้คำปรึกษา ออกแบบและดำเนินการติดตั้งโครงข่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบสื่อสารความเร็วสูง และการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์(Data Center) ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้การรับ-ส่งข้อมูลและทุกการสื่อสารสะดวกรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ การให้บริการงานทั้ง 3 ประเภทดังกล่าวบริษัทได้ดำเนินการไปแล้ว ทำให้มั่นใจว่าจะผลักดันให้มีผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่องสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปี 62 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีฐานลูกค้าในส่วนของภาคเอกชนประมาณ 85% ที่เหลืออีก 15% เป็นภาครัฐบาล ซึ่งในส่วนภาครัฐก็ให้ความสำคัญกับการเพิ่มงบประมาณด้านโซลูชั่นใหม่ ๆ เพราะต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ให้มีความมั่นคงปลอดภัยให้กับทุกภาคส่วน
ปัจจุบัน ธุรกิจ Data Center เปิดให้บริการ 2 แห่ง โดยในแห่งแรกสร้างเสร็จและให้บริการเต็มพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแห่งที่ 2 จะมียอดการเข้าใช้งานที่ 30% ภายในไตรมาส 3/62 และหวังจะมีลูกค้าทยอยเข้ามาใช้บริการ 60% ในสิ้นปี