(เพิ่มเติม) CCET ตั้งงบลงทุนปีนี้ 30 ล้านดอลล์เพิ่มกำลังผลิตรองรับยอดขายที่โตขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 18, 2008 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ระบุว่า ในปี 51 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นำไปลงทุนโรงงานใหม่ในจีน ที่ใช้เงินประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (รวมเครื่องจักร) และที่เหลือเป็นการซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับในโรงงานในไทย ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการขยายตัวของยอดขาย
โดยโรงงานใหม่ในจีน ที่ซูโจว จะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3/51 ซึ่งจะมียอดขาย 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปี ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานในไทย 6 แห่ง และ โรงงานที่จีน 4 แห่ง
ทั้งนี้ ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายปี 51 อยู่ที่ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26% จากปี 50 ที่มียอดขาย 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเพราะบริษัทได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และฐานลูกค้าเก่ายังเหนียวแน่น
นอกจากนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น มาจากสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ ได้แก่ พรินเตอร์ และ PCBA และกลุ่มสื่อสาร ได้แก่ เครื่องรับส่งสัญญาณดาวเทียม เครื่องโทรศัพท์ CDMA รวม บลูทูธ
"ยอดขายปีนี้โตจากปีที่แล้วใน dollar term ประมาณ 26% ยอดเงินก็โตขึ้นมาประมาณ 700 ล้าน US dollar บริษัทมองว่า ตลาดโดยรวมปีนี้ยังดีอยู่ และแคลคอมพ์ฯ เองมีลูกค้าใหม่ๆเข้ามา ลูกค้าของแคลคอมพ์ฯเป็นลูกค้าชั้นหนึ่งในตลาดของสินค้าเหล่านั้นอยู่แล้ว และลูกค้าที่มีอยู่ถือว่าค่อนข้างดีมาก" นางนฤริน ตันติสัจธรรม รองผู้อำนวยการ สำนักงานกรุงเทพ CCET กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นางนฤริน กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Porfit Margin) ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีอัตราเฉลี่ยที่ 3.08% และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ 4.98% โดยผลประกอบการในไตรมาส 3 จะดีที่สุดของปี ส่วนไตรมาส 1 และ 4 จะต่ำกว่าไตรมาสอื่น ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจ
"มาร์จิ้น ในไตรมาส 4 ดูแล้วลดลง แต่ไตรมาสที่ 3 เป็นมาร์จิ้นที่ดีมาก เพราะฉะนั้นเราคิดว่ามาร์จิ้นในแต่ละไตรมาสอาจจะสูงบ้าง ต่ำบ้าง ฉะนั้นเรามองว่าทั้งปีเราก็พยายามรักษาระดับให้ได้ใกล้เคียงมาร์จิ้นของปีที่แล้ว
ทั้งนี้โครงสร้างรายได้ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ 79% กลุ่มสื่อสาร 20% และ 1% อยู่ในกลุ่มอุปกรณ์สำนักงาน
*โบรกฯหนุน"ซื้อ" คาดกำไรปีนี้โต-ปันผลสม่ำเสมอ
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ หุ้น CCET เพราะเห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องดีในปีนี้ และมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่น่าสนใจ ซึ่งมองราคาเหมาะสมที่ 7.90 บาท
โดยบริษัทมีสัญญาล่าสุดกับ Seagate ซึ่งเป็นผู้ผลิต HDD อันดับ 1 ของโลก ที่จ้างโรงงานของ CCET ในจีนผลิตตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นไปจากเดิมที่จ้างแต่โรงงานในไทย และเป็นปัจจัยหลักทำให้ยอดขายในเดือน ม.ค.51 เติบโตถึง 26% จากปีก่อน เป็น 248 ล้านเหรียญฯ ยิ่งไปกว่านั้น การขยายกำลังการผลิตของ Western Digital ซึ่งเป็นผู้ผลิต HDD อันดับ 2 ของโลกและเป็นลูกค้าธุรกิจ PCBA ของ CCET เช่นกันก็คาดว่าจะส่งผลบวกต่อบริษัทด้วย
นอกจากนั้น หลังจากที่บริษัทมีลูกค้าใหม่เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียเมื่อต้นปีที่แล้วกับลูกค้าใหม่ set-top box เมื่อปลายปีที่แล้ว ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ามาอีกในปีนี้จากทางอเมริกาเหนือและอินเดีย โดยในปีนี้ประเทศไทยและภูมิภาคนี้กลับมามีความน่าสนใจขึ้นอีกครั้งหลังจากค่าแรงในจีนเพิ่มขึ้นมาก โดยคาดว่ายอดขายปีนี้จะขยายตัว 18% เป็น 1.1 แสนล้านบาทและกำไรปกติจะเติบโต 15% เป็น 3.4 พันล้านบาทหรือ 0.79 บาท/หุ้น (สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 32.5 บาท/US$)
ขณะเดียวกัน บล.สินเอเซีย , บล.ฟิลลิป, บล.บีฟิท, บล.ซิกโก้,บล.เกียรตินาคิน และ บล.กรุงศรีอยุธยา ต่างก็แนะนำ ซื้อ หุ้น CCET โดยมีราคาเป้าหมย 7.60 บาท, 7.70 บาท , 8.00 บาท , 8.33 บาท , 8.50 บาท , 9.50 บาท ตามลำดับ ด้วยเหตุผลที่มองว่ากำไรสุทธิของ CCET ในปีนี้จะเติบโตตามยอดขายที่โตต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้า HDD และกลุ่ม Mobile Handset และให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลสูงเฉลี่ยปีละ 6-7%

แท็ก สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ