นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้าตามดาวโจนส์ จากาความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว หลังจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังไม่จบ และยังอยู่ในช่วงรอความชัดเจนจากการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล ซึ่งรอดูการส่งสัญญาณจากประธานเฟดในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ถ้าส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ตลาดฯคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ โดยขณะนี้ตลาดฯคาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย.
ส่วนบ้านเราผลประกอบการงวดไตรมาส 2/62 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาไม่ดีปรับตัวลง 20% yoy ทำให้หลายโบรกเกอร์น่าจะทยอยปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง ซึ่งทางฝ่ายวิจัย"ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี"ได้ปรับลดประมาณการกำไรปีนี้เหลือเติบโต 3% จากเดิมคาดเติบโต 7% และปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ลงเหลือ 1,700 จุด จากเป้าหมายเดิม 1,780 จุด ซึ่งแรงกดดันนี้อาจทำให้ตลาดฯปรับฐานได้
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ของสหรัฐฯเริ่มกลับมาปรับตัวลงอีกครั้ง พร้อมให้แนวรับ 1,607 จุด ส่วนแนวต้าน 1,634 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,962.44 จุด ลดลง 173.35 จุด (-0.66%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,900.51 จุด ลดลง 23.14 จุด (-0.79%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,948.56 จุด ลดลง 54.25 จุด (-0.68%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 187.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.27 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.51 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ส.ค.62) 1,625.57 จุด ลดลง 11.69 จุด (-0.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,982.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ส.ค.62) ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ส.ค.) อยู่ที่ 3.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.81 คาดกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.75-30.90 ตลาดรอดูตัวเลขส่งออกของไทย
- แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.1 แสนล้านบาทฉลุย ครม.เห็นชอบรวมถึงอายุวีโอเอท่องเที่ยว แต่เบรกฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว จีนและอินเดีย "ดอน-อนุพงษ์-วราวุธ" ประสานเสียงค้าน "พิพัฒน์" เหตุกระทบความมั่นคง บริการสาธารณูปโภคและปัญหาสิ่งแวดล้อม "ดอน" ยันทางการจีนเห็นพ้องย้ำคัดนักท่องเที่ยวคุณภาพ "แอตต้า" ชงใหม่ ขอฟรีค่าธรรมเนียม เชื่อตอบโจทย์ความมั่นคง "กอบศักดิ์" เผย ครม.ศก. 30 ส.ค.นี้ มีมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจก๊อก 2 ดันบิ๊กโปรเจคลงทุนบีโอไอดึงบริษัทต่างชาติย้ายฐานมาไทย
- "แบงก์ชาติ" ประเมินแนวโน้ม ส่งออกไทยไตรมาส 3 ส่อ "หดตัว" ต่อเนื่อง ผลจากสงครามการค้า ห่วงการบริโภคชะลอตัว รั้งเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ด้าน สศค.หั่น "จีดีพี" ปีนี้เหลือ 3% แต่มั่นใจมาตรการกระตุ้นหนุนเติบโตแตะ 3.5%
- รมว.พลังงาน เผยได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บมจ.ปตท. (PTT) ไปพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้ กฟผ.พิจารณแนวทางรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ส่วน ปตท.ช่วยผลักดันการใช้ไบโอดีเซลจาก บี 7 ไปสู่ไบโอดีเซล บี 10 และไบโอดีเซล บี 20 ให้ขยายผลมากขึ้น
- ธปท.มีแนวคิดสนับสนุนให้ไทยนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น อาจไม่ต้องตรวจสอบตัวตนมาก ถ้ามีเงินก็นำออกไปลงทุนได้ เพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และลดแรงกดดันเงินไหลเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งช่วยลดผลกระทบผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสุดท้ายที่จะนำมาใช้ทำให้เงินบาทอ่อนค่า และอยู่ระหว่างที่นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.พิจารณาอยู่
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มั่นใจว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อีก 0.25% เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่ยังต่ำอยู่ จึงจำเป็นที่ต้องดำเนินนโยบายการเงินและนโยบายการคลังแบบผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- SUPEREIF (กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ชื่อ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร โดยมีราคาเสนอขาย 10 บาท/หน่วย ทั้งนี้ SUPEREIF ลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด (17AYH) และบริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (HPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) จำนวนทั้งหมด 19 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 118 เมกะวัตต์ (MW)
- 7UP-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน605,919,620 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.05 บาท/หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาใช้สิทธิ ครั้งที่ 1 ราคา 0.50 บาท/หุ้น , ราคาใช้สิทธิ ครั้งที่ 2 ราคา 1.25 บาท/หุ้น และราคาใช้สิทธิ ครั้งที่ 3 ราคา 2.25 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 มิ.ย.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ส.ค.65
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 90 บาท กำไรมีแนวโน้มดีขึ้นใน Q3/62 แม้เป็น low season ของธุรกิจค้าปลีก แต่ Stamp promotion ซึ่งได้รับการตอบรับดีเพราะธีมโดเรมอนและกำไรของ MAKRO ช่วยหนุนได้ และกำไร Q4/62 จะเป็นกำไรสูงสุดของปีตามฤดูกาล โดยคาดกำไรทั้งปี +15% นอกจากนี้ เดือนนี้มีหุ้นกู้ครบกำหนด 1.2 หมื่นล้านบาท หลังจ่ายชำระด้วยเงินสดของกิจการแล้ว ภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลง และน่าจะได้เห็นความชัดเจนของสาขาในตปท.ปลายปี
- BGRIM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 37.5 บาท ผลกำไรใน Q3/62 และ Q4/62 จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้าใหม่ที่ทยอย COD ในช่วงปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องเป็นจนถึงครึ่งปีแรกของปีนี้ นอกจากนี้ยังมี Sentiment