นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโซลาฟาร์มทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มเติม มีกำลังการผลิตประมาณ 50 เมกะวัตต์ (MW) ต่อโครงการ โดยในต่างประเทศบริษัทจะเน้นเข้าลงทุนในประเทศที่เคยลงทุนไปแล้ว เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น และมองโกเลีย โดยโครงการที่มีความคืบหน้าและมีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ โครงการในเวียดนาม ที่มีทั้งโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และโครงเริ่มก่อสร้างใหม่ทั้งหมด โดยคาดว่าปีนี้จะเห็นความชัดเจน 1-2 โครงการ
"ก่อนหน้านี้เราคิดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 2/62 แต่โครงการต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาเพื่อที่ให้มีความชัดเจนในเรื่องของเสถียรภาพการรับรู้รายได้ และการสร้างผลตอบแทน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาเสนอโครงการต่อเนื่อง เราคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้แน่นอน"นายวรุตม์ กล่าว
สำหรับโครงการที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 74.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการ Yamaga ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 34.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน มิ.ย. 63 และ โครงการ Leo 2 เฟส แบ่งเป็น เฟส 1 กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 3/64 และ โครงการ Leo เฟส 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการขายไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 14 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3/63 และจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 65
ทั้งนี้ บริษัทยังคงแผนภายใน 3-5 ปี (ปี 62-66) จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 400 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ โดยในปี 63 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 191.6 เมกะวัตต์ และในปี 64-65 จะมีโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าระบบเพิ่มเป็น 231.6 เมกะวัตต์
บริษัทยืนยันว่ายังไม่ได้มีแผนการเพิ่มทุน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 2.49 เท่า โดยบริษัทจะควบคุมให้ไม่เกิน 3 เท่า และบริษัทยังมีเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ที่จะสามารถเข้ามาสนับสนุนการลงทุนของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
นายวรุตม์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/62 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโซลาฟาร์มประเทศมองโกเลียกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิบงพาณิชย์ได้ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยบริษัทยังคงมั่นใจทั้งปีรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 30-40% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,137.38 ล้านบาท