(เพิ่มเติม) ศาลปกครอง ยกคำร้องกลุ่มซีพีขอความเป็นธรรมยื่นข้อเสนออู่ตะเภาเกินเวลา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 21, 2019 16:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารเรือ แถลงว่า ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่กลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก คดีหมายเลขดำ ที่ 757/2562 ซึ่งมีผลทำให้คำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ไม่รับพิจารณาเอกสารข้อเสนอกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกยอมรับและเคารพข้อวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลปกครองกลางทุกประการ คณะกรรมการคัดเลือกขอยืนยันในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมและให้ความเสมอภาคแก่ผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะมีการประชุมวันที่ 27 ส.ค.62 เพื่อรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และพิจารณาขั้นตอนในการดำเนินการในการพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในขั้นตอนต่อไป โดยปัจจุบันยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอเทคนิค) เนื่องจากมีข้อมูลและสาระที่ต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและสอดคล้องกับแผนงานโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางเดือน ก.ย.นี้

สำหรับคำพิพากษาของศาลปกครองในวันนี้ระบุว่า ผู้ฟ้องคดีในนามกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ได้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ตามกำหนดเปิดการยื่นซองในวันที่ 21 มี.ค.62 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น.ซึ่งผู้ฟ้องคดียื่นซองข้อเสนอ ประกอบด้วย เอกสารซองที่ไม่ปิดผนึก เอกสารซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป เอกสารซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ เอกสารซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา และเอกสารซองที่ 4 ข้อเสนออื่น ๆ รวม 11 กล่อง พร้อมกล่องสำเนา และเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ออกหลักฐานการยื่นซองข้อเสนอให้แก่ผู้ฟ้องคดีแล้ว

แต่ต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีหนังสือแจ้งผลการยื่นข้อเสนอว่ามีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว และให้ผู้ถูกฟ้องคดีรับซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไว้พิจารณาตามขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนต่อไป

คดีมีประเด็นวินิจฉัยว่า มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเอกสารการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการนี้ ในส่วนของสถานที่ วัน เวลาเปิดการรับซอง ปิดการรับซอง และการเปิดซองข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอ และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะไม่รับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสารข้อเสนอตามที่ระบุไว้

สำหรับหลักเกณฑ์การเปิดซองข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอ กำหนดว่า (ก) จะเปิดซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไปของผู้ยื่นข้อเสนอในวันที่ 21 มี.ค.62 เวลา 16.00 น.จากข้อกำหนดดังกล่าว ซองข้อเสนอที่ผู้ประสงค์จะยื่นแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ข้อเสนอไม่ปิดผนึก (ซองที่ ๐) กับ กลุ่มที่สอง ข้อเสนอปิดผนึก (ซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ ซองที่ 3 ข้อเสนอ ด้านราคา และซองที่ 4 ข้อเสนออื่น ๆ) ซึ่งผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องยื่นซองข้อเสนอทั้ง 2 กลุ่ม ให้ครบถ้วนภายในเวลา 15.00 น.หลักเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าวได้กำหนดขึ้นเพื่อให้การแข่งขันในการยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม และเพื่อป้องกันมิให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน อันเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในฐานะผู้ทำหน้าที่คัดเลือกคู่สัญญาจะต้องวางตัวเป็นกลางและรักษากติกา กล่าวคือ ต้องดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยไม่เลือกปฏิบัติ

ข้อเท็จจริงในคดีนี้รับฟังได้ว่า ในวันยื่นซองข้อเสนอเวลาประมาณ 12.21 น.ผู้ฟ้องคดีได้นำข้อเสนอซองไม่ปิดผนึกมายังสถานที่รับซอง และเวลา 13.52 น.ผู้ฟ้องคดีได้นำซองข้อเสนออีกจำนวน 8 กล่อง เข้ามา ต่อมาในเวลา 15.00 น. คณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอตรวจสอบหมายเลขซองข้อเสนอที่ระบุบนกล่องข้อเสนอทั้งหมดของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าที่มาถึงสถานที่รับซองแล้ว พบว่า ผู้ฟ้องคดีมีความประสงค์ที่จะยื่นข้อเสนอจำนวนทั้งหมด 11 กล่อง แต่ข้อเสนอมีเพียง 9 กล่องเท่านั้นที่มาถึง โดยขาดข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 (ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ) และกล่องที่ 9 (ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา) ต่อมา เวลาประมาณ 15.09 น.ซองข้อเสนอ 2 กล่องดังกล่าวมาถึงยังสถานที่รับซอง

ผู้ฟ้องคดียอมรับตามคำชี้แจงเพิ่มเติมว่าได้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากการจราจรติดขัด จึงรับฟังได้ว่าเอกสารซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า จำนวน 2 กล่อง ดังกล่าว มาถึงยังสถานที่รับซองภายหลังเวลา 15.00 น.อันเป็นกำหนดเวลาปิดการรับซองตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (1) ของเอกสารการคัดเลือกฯ ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมมีหน้าที่ปฏิเสธไม่รับกล่องดังกล่าวไว้พิจารณาในขั้นตอนต่อไปตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (3) โดยไม่สามารถพิจารณายกเว้นให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าเป็นกรณีพิเศษได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้น มติของผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุม ครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.62 ที่ไม่รับซองข้อเสนอทั้ง 2 กล่องจึงชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีที่ว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้รับซองข้อเสนอทั้งหมดไว้แล้วในวันนั้นโดยไม่ได้อิดเอื้อนหรือมีท่าทีปฏิเสธ และได้เลื่อนการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 1 (คุณสมบัติทั่วไป) ของผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายออกไป ทั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังให้ผู้ฟ้องคดีชำระค่าธรรมเนียมประเมินซองข้อเสนอและหลักประกันซอง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ถือเอากำหนดเวลายื่นและรับซองข้อเสนอในเอกสารคัดเลือกฯ เป็นสาระสำคัญ และถือว่าเป็นการขยายระยะเวลารับซองโดยปริยายแล้วนั้น

ศาลฯเห็นว่า กระบวนการยื่นและรับข้อเสนอซองไม่ปิดผนึกรวมทั้งซองปิดผนึก (ซองที่ 1 ถึงซองที่ 4) ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15.00 น. เป็นกระบวนการหรือขั้นตอนที่แยกต่างหากออกจากกระบวนการตรวจสอบเอกสารในซองไม่ปิดผนึก ทั้งการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารซองไม่ปิดผนึกก็ไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการยื่นข้อเสนอซองปิดผนึก หากแต่เป็นขั้นตอนภายหลังในชั้นของเงื่อนไขการพิจารณาให้คะแนนเท่านั้น

ประกอบกับความล่าช้าของการดำเนินการที่ส่งผลให้กำหนดการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 1 ต้องล่าช้าออกไปจนต้องมีการแจ้งเลื่อนนั้น เป็นเรื่องของการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารซองไม่ปิดผนึกเพราะเอกสารที่ยื่นมีเป็นจำนวนมาก ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีหนังสือแจ้งขยายเวลากำหนดการยื่นซองเอกสารข้อเสนอ ประกอบกับการปฏิเสธไม่รับข้อเสนอที่ยื่นเกินเวลาดังกล่าว ไม่จำต้องกระทำในเวลาที่มีการยื่นแต่อย่างใด หากข้อเท็จจริงปรากฏชัดในภายหลัง คณะกรรมการคัดเลือกฯ ย่อมมีสิทธิปฏิเสธไม่รับได้ ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีไม่อาจรับฟังได้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ