นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) กล่าวว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว เห็นได้จากการที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 62 เหลือเติบโต 2.7-3.2% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.3-3.8% รวมถึงปัญหาภัยแล้ง สินค้าเกษตรตกต่ำ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการเติบโตลดลงของภาคการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันก็ยังมีปัจจัยลบจากต่างประเทศ ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน การประท้วงในประเทศฮ่องกงอีกด้วย โดยปัจจจัยดังกล่าวได้ส่งผลกดดันต่อพอร์ตสินเชื่อโดยรวมของบริษัทปรับตัวลดลง โดยครึ่งปีแรกปรับตัวลงไป 6% และคาดว่าทั้งปีน่าจะปรับตัวลดลง 10% ตามสินเชื่อใหม่ที่เติบโตลดลง
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ TK ในต่างประเทศยังคงเติบโตได้ดี ทั้งในกัมพูชา และลาว คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 30% โดยปีนี้บริษัทก็มีการเปิดสาขาในต่างประเทศรวม 10 สาขา ได้แก่ ในกัมพูชา 6 สาขา, ลาว 3 สาขา และเมียนมา 1 สาขา ใช้งบลงทุนรวมราว 30-40 ล้านบาท ส่วนสาขาในประเทศไทยคงจะชะลอการเปิดสาขาออกไปก่อน จากแผนเดิมจะเปิด 3-4 สาขา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้อ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 93 สาขา
ปัจจุบัน TK มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8,603 ล้านบาท แบ่งเป็น พอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 8,202 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 95% และพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ 334 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% และแบ่งเป็นในประเทศ 7,086 ล้านบาท คิดเป็น 86% และต่างประเทศ 1,122 ล้านบาท คิดเป็น 14%
ทั้งนี้ บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ โดยเข้มงวดในขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ และเร่งตัดหนี้สูญลูกหนี้ มาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้กำไรสุทธิและรายได้ในครึ่งปีแรกยังคงเติบโต แต่ด้วยปัจจัยลบที่ค่อนข้างมากกว่าปัจจัยบวก ทำให้มองว่าครึ่งปีหลังน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก และทั้งปีก็น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ประกอบกับการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.6%
ส่วนภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศปีนี้คาดปรับตัวลดลง โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดขายปรับตัวลงไปแล้วกว่า 4% แต่รถยนต์ ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 7% อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้งปีนี้ยอดขายรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 1.72 ล้านคัน ลดลง 4% ส่วนรถยนต์ คาดมียอดขายอยู่ที่ 1 ล้านคัน ลดลง 3-4%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ วงเงินประมาณ 300-400 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุในไตรมาส 4/62