นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมจัดงาน "Thailand Focus 2019: Embracing Opportunities - The Next Chapter" ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค.62 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เพื่อนำเสนอจุดเด่นของประเทศไทย และตลาดทุนไทยภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสถาบันได้รับฟังนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้นำภาครัฐโดยตรง ชูประเด็นขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การวางโครงสร้างพื้นฐานสู่ยุคดิจิทัล ตลอดจนการเชื่อมโยงและโอกาสการลงทุนสำหรับภูมิภาคโดยเฉพาะ CLMV และ ASEAN
ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน และอินเดีย เป็นต้น ในงานนี้ มีผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน กว่า 100 บริษัท มาให้ข้อมูลผลการดำเนินงานและแนวทางธุรกิจแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ร่วมงานมาจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งใน SET และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 12.35 ล้านล้านบาท คิดเป็น 72% ของมูลค่ารวมของตลาด (ข้อมูล ณ 20 สิงหาคม 2562)
"แม้ตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและขยายการลงทุนไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันภาครัฐได้เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการลงทุนของภาครัฐและเอกชน โดยงาน "Thailand Focus" ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับทิศทางและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงนโยบายทางการเงินและการคลังที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก"นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงจากภาคธุรกิจร่วมให้ข้อมูลถึงศักยภาพของธุรกิจในประเทศที่ขยายจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค ภาคการค้าและการท่องเที่ยวทั้งในการพัฒนาเชิงพื้นที่ของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ Thailand 4.0 ที่จะส่งผลในเชิงบวกให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เดินหน้าไปพร้อมกันทั้งภาคการลงทุน และภาคประชาชน