นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ ที่มีการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในเรื่องการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเร่งเพิ่มช่องทางการให้บริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่มีการให้บริการลูกค้า อาทิ การให้บริการด้านที่ปรึกษาการลงทุนด้านวาณิชธนกิจ (IB), ตราสารหนี้ (Bond) , Options และการรักษาความเสี่ยงด้านการลงทุนของฝ่ายค้าตราสารทุนและอนุพันธ์ (Proprietary Trading), เครดิตบาลานซ์, Margin Loan, block Trade โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดให้บริการในส่วนของหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Note) ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างมาก และอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมอีก 1-2 โปรดักส์ คาดว่าจะออกได้ในเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้เตรียมปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุกในการให้บริการด้านการเป็นตัวแทนซื้อขายกองทุนรวม (Wealth Management) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำในประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปิดให้บริการมาแล้ว 5 เดือน ตั้งแต่ต้นปี 2562 มีมูลค่าซื้อขาย 500 ล้านบาท โดยจุดแข็งคือ การมีกลุ่มเจ้าหน้าที่การตลาด ที่มีฐานคอนเนคชั่น ที่เหนียวแน่นกับลูกค้ากลุ่ม High Net Worth
ด้านนายเจษฎา ยงพิทยาพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานตราสารหนี้(ตลาดรอง)และรักษาการผู้บริหารฝ่าย Wealth Management บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนซื้อขายกองทุนรวม (Wealth Management) ของบลจ. ชั้นนำในประเทศไทย กว่า 11 แห่ง อาทิ 1. บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) 2. บลจ.กรุงศรี 3. บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) 4. บลจ.ไทยพาณิชย์ 5. บลจ.วรรณ 6.บลจ. ทหารไทย 7. บลจ. กสิกรไทย 8. บลจ.แอสเซท พลัส 9. บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 10. บลจ. กรุงไทย และ11. บลจ.พรินซิเพิล
สำหรับรูปแบบการให้บริการ แบ่งเป็น การให้บริการบัญชี Omnibus Account บริการซื้อขายกองทุนรวมผ่านบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุนแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน และการให้บริการแบบบัญชี Segregate Account บริการซื้อขายกองทุนรวมผ่านบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุนแบบเปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้หลากหลายบลจ. รวมถึงบริการคัดสรรหน่วยลงทุน และยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งแนะนำหน่วยลงทุนที่น่าสนใจโดยทีมงานมืออาชีพที่มากประสบการณ์ ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน " Settrade Streaming for Fund " บนระบบ iOS และ Android
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มภาพรวมของกองทุนรวม มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเห็นได้จากในช่วงไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมา มูลค่าตลาดรวม อยู่ที่ระดับ 5.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน ที่มีมูลค่าตลาดรวมที่ระดับ 5.1 ล้านล้านบาท ดังนั้นในอนาคต หากบลจ. ยังมีแผนการออกกองทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (กองทุนเปิด และ กองทุนปิด) ประกอบกับหากอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาลง โอกาสที่นักลงทุนหันมาออมเงินในรูปแบบของกองทุนรวมมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบล.โกลเบล็ก ที่มีแผนรองรับโปรดักส์ ด้านกองทุนไว้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันบุคลากรของบริษัทก็มีความเชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลด้านการลงทุน