บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โต 80% เป็น 3 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 2.5 พันล้านบาท จาก backlog ที่เพิ่มขึ้น
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการ บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) เปิดเผยว่า ในปีนี้ได้มีการปรับเป้าตั้งรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่ได้ตั้งไว้ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่มีรายได้ 1,646 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 80% เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (backlog) 2 โครงการที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท และยังมีโครงการเพื่อที่จะทำให้ backlog เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ 80% ยังมาจากการขายโครงการและที่เหลือ 20% เป็นรายได้ที่มาจากงานให้บริการเช่าอุปกรณ์และการซ่อมบำรุงรักษา
ในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุน 80 ล้านบาท โดย 30 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในเรื่องอุปกรณ์ด้านไอที เครื่องมือ และบุคลากร ส่วนอีก 50 ล้านบาท จะเป็นงบลงทุนเบื้องต้นกับ 3 บริษัท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ เชื่อว่าในปี 51สถานการณ์ต่างๆ จะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองรวมถึงงบประมาณการใช้จ่ายประจำปี 51 จะเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศซึ่งดีกว่าปี 50 ที่ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทและทำให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุนไปด้วย
นายศิริพงษ์ คาดว่า อัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) ในปี 51จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 7-8% เนื่องจากบริษัทได้มีการฟิก cost วัตถุดิบและค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากปีก่อน ประกอบการรายได้ในปีนี้เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมแผนขยายธุรกิจไปต่างประเทศ 3 แห่ง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม โดยจะเป็นการนำซอฟท์แวร์ไทยที่พัฒนาขึ้นด้วยคนไทยและใช้งานในหมู่ราชการรวมถึงการขายและคู่มือการใช้งานด้านซอฟท์แวร์ให้เป็นมาตรฐานสากล
รวมทั้ง บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมทุนในลักษณะเดียวกันอีก 3 บริษัท ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้ฐานธุรกิจของบริษัทแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนและเริ่มดำเนินธุรกิจแล้ว 2 บริษัท คือ บริษัทเมเปิ้ลพัส ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบแผนที่สารสนเทศภูมิศาสตร์หรือ GIS (Geography Information System) ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดย AIT ถือหุ้น 55 % ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ปี 2551 ประมาณ 50 ล้านบาท และ บริษัทแบงค์เสริฟ ที่ทำตลาดในกลุ่มสถาบันการเงินและภาคอุตสาหกรรม ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทโดย AIT ถือหุ้น 80% ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ปี 2551 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ล่าสุด คณะกรรมการอนุมัติตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท Sojitz Corporation จากญี่ปุ่น โดยจะทำธุรกิจด้านบริการซ่อมบำรุงรักษาและ Outsourcing ในฐานลูกค้าเดิมของ AIT และขยายสู่ตลาดในกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ในปีแรกไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และจะเริ่มดำเนินการได้ในปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
*ปี 50 กำไรหด 51.91% เหตุรายได้ลด,มีสำรองขาดทุนด้อยค่าอุปกรณ์ฯ
สำหรับผลประกอบการในปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ เป็นเงิน 94.81 ล้านบาท ลดลง 102.36 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 51.91 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 197.17 ล้านบาท
สาเหตุเนื่องมาจากรายได้ที่ลดลงทำให้กำไรสุทธิลดลงตาม และมีรายการสำรองขาดทุนจากการด้อยค่าของอุปกรณ์สำหรับให้เช่า เป็นเงิน 40 ล้านบาท
ในปี 2550 บริษัทมีรายได้รวมเป็นเงิน 1,646.59 ล้านบาท ลดลง 631.87 ล้านบาท หรือ ประมาณร้อยละ 27.73 เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ปี 2549 ซึ่งมีรายได้ 2,278.46 ล้านบาท สาเหตุเนื่องมาจาก ปี 2550 มีโครงการแล้วเสร็จน้อยกว่าในปี 2549 เป็นจำนวนมาก
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--