นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้ตอบรับในการเป็นหัวหน้าทีมในการโรดโชว์ ที่สิงคโปร์และอังกฤษ โดยที่จะแจงนโยบายรัฐบาล ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันโรดโชว์
เมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) ที่ผ่านมาได้เข้าพบ รมว.คลัง เพื่อรายงานถึงนโยบายการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ โดยได้ยื่นสมุดปกขาวรายงานเกี่ยวกับแผนงานตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการรายงานให้รมว.คลังทราบถึงงานของตลท.ใน 3 เรื่อง คือ การขยายอุปทานของตลาด การเพิ่มอุปสงค์ และการปรับโครงสร้างของตลาดหลักทรัพย์รวมถึงบริษัทย่อย และแนวทางการพัฒนาตลาดฯใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมได้เสนอให้รมว.คลังเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน
นายปกรณ์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับตลาดทุนที่แถลงวันนี้ เชื่อว่าทุกคนในตลาดทุนจะตอบรับและให้ความร่วมมือ ซึ่งต้องยอมรับว่าการพัฒนาตลาดทุนถือเป็นสิ่งสำคัญต่อประเทศที่กำลังพัฒนาเพราะสามารถเป็นแหล่งระดมเงินออมและกระจายเงินออมสู่เศรษฐกิจ ดังนั้น หากรัฐบาลสนับสนุนตลาดทุนอย่างจริงจังก็เป็นเรื่องที่ดี
ทั้งนี้ หากพิจารณาจะพบว่าปัจจุบันเงินออมในประเทศภาคครัวเรือนและเงินออมของภาคธุรกิจอยู่ในระดับต่ำก็ทำให้ผู้มีเงินออมมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น
"การที่รัฐบาลให้ความสำคัญต่อตลาดทุนจะเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศและวงการตลาดทุนก็จะให้การตอบรับที่ดีแน่นอน ส่วนการบริหารจะเริ่มหรือจะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ต้องติดตามดู" นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับหุ้นเก็งกำไรที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นายปกรณ์มองว่า เป็นเรื่องเล็ก และหุ้นเก็.กำไรเหล่านี้มีไม่ถึง 5% ของมูลค่าการซื้อขายของตลาด และ จำกัดไม่กี่บริษัทเท่านั้น อย่างไรก็ตามตลาดฯไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยยังปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดฯหากพบว่ามีความผิดปกติตลาดก็ดูอยู่แล้ว
*ตลท.รอลุ้น 27 ก.พ.กนง.ลดดอกเบี้ย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. คาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 27 ก.พ.นี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50% ตามธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และจะส่งผลดีทำให้เม็ดเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น
ส่วนกระแสเงินที่เข้ามาของนักลงทุนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาน่าจะมาจาก 2 ประเด็นหลักคือ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น จากการเมืองมีความชัดเจนหลังมีการเลือกตั้งและมีทีมเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐก็ได้รับการแก้ไขบางส่วนจึงส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาเลือกลงทุนในภูมิภาครวมถึงประเทศไทย จะเห็นว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น
"จะเห็นว่าตอนนี้ทุนเคลื่อนย้ายในภูมิภาค ทำให้หุ้นในภูมิภาครวมถึงไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันส่วนเรื่องปัญหาซับไพร์มโดยส่วนตัวเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นและมีการแก้ไข แต่อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวควรที่จะมองในระยะยาว" นางภัทรียา กล่าว
ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า การปรับลดดอกเบี้ยของกนง.ในรอบนี้เชื่อว่าทางการคงพิจารณาดูถึงผลดีผลเสีย ซึ่งปัจจัยที่จะต้องติดตามหรือมีผลต่อการปรับลดดอกเบี้ยของกนง.รอบนี้ ได้แก่ เรื่องภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และ สภาพคล่องในตลาด
โดยส่วนตัวมองว่าขณะนี้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ตามที่ทุกคนคาดการณ์บางส่วนและหวังว่าเมื่อเศรษฐกิจดีแล้วการลงทุนก็จะกลับเข้ามาด้วย ส่วนเรื่องขยายสินเชื่อขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--