ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเช้าร่วง 26 จุด ก่อนไหลลงต่อเนื่องเป็น 34.48 จุด หรือ 2.09% ตามทิศทางตลาดต่างประเทศที่กังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความตึงเครียดมากขึ้น หลังแต่ละฝ่ายตอบโต้กันโดยการประกาศจะเก็บภาษีสินค้าในอัตราที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเวลา 9.58 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,620.36 จุด ลดลง 26.32 จุด (-1.60%)
เมื่อเวลา 10.05 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,620.55 จุด ลดลง 26.13 จุด (-1.59%)
และล่าสุด เมื่อเวลา 11.08 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,612.20 จุด ลดลง 34.48 จุด (-2.09%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาร่วงกว่า 20 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลงกันทั่วหน้า รับผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีการตอบโต้กันไปมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจมีมากขึ้นจากนี้
ทั้งนี้ แรงกดดันนี้จะมีต่อไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเจรจาในระหว่างทาง และจะต้องจับตาการย้ายฐานการผลิตของบริษัทสหรัฐฯออกจากจีนด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635 จุด
อนึ่ง สภาแห่งรัฐของจีน ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีจีน แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษี 5-10% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการเก็บภาษี 2 รอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค. โดยสินค้าดังกล่าวรวมถึงถั่วเหลือง อาหารทะเล ผักผลไม้ และน้ำมันดิบ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ก็ประกาศว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 30% จาก 25% ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ นอกจากนี้ ยังได้ประกาศปรับขึ้นภาษีที่ได้วางแผนไว้สำหรับสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 15% จาก 10% ด้วย โดยจะเริ่มเก็บภาษีผลิตภัณฑ์บางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเลื่อนการเก็บภาษีสินค้าดังกล่าวราวครึ่งหนึ่งไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.