นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) คาดว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยเป็นผลมาจากจะมีโครงการที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 45.7 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 305.6 เมกะวัตต์ในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีกราว 100-200 เมกะวัตต์ภายในระยะเวลา 2-3 ปี โดยจะเน้นลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล และโซลาฟาร์มกำลังการผลิตรวมราว 20-30 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนปลายปีนี้ 1-2 โครงการ
สำหรับโครงการในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อกิจการโซลาฟาร์มในเวียดนามกำลังการผลิตรวมราว 50-100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/62 ขณะที่บริษัทจะร่วมกับพันธมิตรยื่นประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการโซลาฟาร์มในมาเลเซีย ช่วงเดือน ก.พ.63 ขนาดกำลังการผลิต 70 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดว่าจะมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 49%
นอกจากนี้ บริษัทยังศึกษาการลงทุนในไต้หวัน โดยมองการลงทุนในโครงการโซลาฟาร์มทั้งโครงการที่ COD แล้ว และโครงการที่พัฒนาขึ้นใหม่ กำลังการผลิตราว 10-20 เมกะวัตต์ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาความเหมาะสมในการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จากเงินที่ได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง และบริษัทยังสามารถเพิ่มทุนแบบจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) อีกราว 1 พันล้านบาท