นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทได้เลื่อนเปิดโครงการแนวราบในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 2-3 โครงการ เนื่องจากเกิดปัญหาขาดแคลนผู้รับเหมารายย่อยที่เข้ามาก่อสร้างโครงการ หลังจากขณะนี้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายต่างหันมาพัฒนาโครงการแนวราบกันมากขึ้น
ดังนั้น การเปิดโครงการใหม่ในครึ่งหลังของปีนี้จะลดลงเหลือ 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.86 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ จากเดิมที่วางแผนเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังไว้ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.7 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการทบทวนเป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้จากปัจจุบ้นที่คาดว่าจะทำยอดขาย 1.96 หมื่นล้านบาท และรายได้ 8 พันล้านบาท ซึ่งจะประกาศอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น และ โครงการร่วมทุน นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ทื่ 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 4 พันล้านบาท
บริษัทยังวางแผนจะรุกตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มพรีเมียมระดับราคา 150,000-190,000 บาท/ตารางเมตรมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าไปในระดับบน เนื่องจากมองว่ากลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีความสามารถในการซื้อสูง อีกทั้งยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลที่อยู่ในเมืองที่มีศักยภาพ
ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนไปแล้ว 1 โครงการ คือ ปิติ เอกมัย มูลค่า 4.7 พันล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 40% มีกำหนดการโอนภายในปี 65 และวางแผนจะเปิดโครงการระดับพรีเมียมอย่างน้อยปีละ 1 โครงการ เพื่อเพิ่มสัดส่วนโครงการระดับพรีเมียมให้เพิ่มขึ้น คาดว่าในปี 63 จะมีสัดส่วนโครงการระดับพรีเมียมเพิ่มเป็น 10-20% โดยที่ในช่วงไตรมาส 4/62 จะมีการเปิดโครงการปิติ สุขุมวิท 101 อีก 1 โครงการ
บริษัทได้จัดตั้งบริษัท อีลีท เรสซิเดนซ์ จากัด ขึ้นมาดูแลบริการงานด้านนิติบคุคลให้กับโครงการพรีเมียมของบริษัทเพื่อยกระดับการบริการให้เทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว โดยได้มีการส่งทีมงานเข้าร่วมศึกษาดูงานและรับการอบรมจากมืออาชีพ คือ ออนิกซ์ฮอสพิทาลิตี้กรุ๊ป (Onyx Hospitality Grop) มุ่งเน้นพัฒนาทักษะความรู้ และเพิ่มศักยภาพทีมงานให้มีความเป็นมืออาชีพตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว
ทั้งนี้ บริษัทจะให้ออนิกซ์ฮอสพิทาลิตี้กรุ๊ปบริหารโครงการไม่ต่ำกว่า 3 ปี และในส่วนของค่าส่วนกลางของโครงการนั้นยังคงเท่าเดิม แม้ว่าจะมีการยกระดับให้ดีขึ้นทัดเทียมกับโรงแรม 5 ดาว แต่บริษัทยังคงให้มีค่าส่วนกลางตามที่บริษัทได้แจ้งให้กับลูกค้าในตอนเปิดขายโครงการเท่าเดิม โดยโครงการปิติ เอกมัย ยังคงมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 70 บาท/ตารางเมตร
บริษัทยังมองโอกาสการเข้าลงทุนธุรกิจโรงแรมในอนาคตเพื่อสร้างรายได้ประจำ โดยอาจจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตีส์ คอร์ป ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกัน 13 โครงการ เนื่องจากทางฮันคิวฯ มีโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการทั้งหมด 46 แห่ง ซึ่งจะเน้นการพัฒนาโรงแรมในกรุงเทพฯและหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก
อย่างไรก็ตาม หากมีผู้เสนอขายกิจการโรงแรมให้แก่บริษัท บริษัทก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อถ้าให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมาให้กับบริษัทและคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสนอขายกิจการโรงแรมออกมาพอสมควร หากมีโอกาสที่ดีบริษัทก็จะศึกษาและพร้อมที่จะเข้าลงทุน