บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ยืนยันว่าโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดเดิมวันที่ 31 ส.ค.62 แม้จะเกิดข้อพิพาทกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. และถูกตรวจสอบการใช้ที่ดินจากหน่วยงานภาครัฐ โดย CPN ย้ำว่าได้รับอนุญาตและก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน รอลุ้นศาลปกครองบ่ายนี้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ และอาจขอเจรจา AOT เปิดทางเข้า-ออกก่อน
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนคดีที่บริษัทยื่นฟ้อง AOT ในข้อหากระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระทำละเมิด กรณีที่บริษัทได้รับอนุญาตให้ทำทางเชื่อมในเขตทางหลวงได้เป็นการชั่วคราวจากผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน แต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค.62 AOT ได้เข้ามาตั้งเต็นท์ขวางทางเข้าออกโครงการและไม่อนุญาตให้ใช้ทางดังกล่าว เป็นเหตุให้บริษัทฯ กับพวกได้รับความเดือดร้อนเสียหาย และระหว่างการพิจารณาคดีขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ หากศาลปกครองกลางยังไม่มีคำพิพากษาหรือไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว บริษัทก็จะขอเจรจากับ AOT เพื่อให้รื้อถอนสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออก เพื่อให้สามารถดำเนินการเปิดให้บริการได้ตามกำหนดในวันที่ 31 ส.ค.นี้ รวมถึงจะมีการแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจด้วย ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร้านค้าและพนักงานเพื่อฟ้องกลับ AOT
นายปรีชา กล่าวว่า เซ็นทรัล วิลเลจได้รับการอนุญาตและก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน โปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะประเด็นพื้นที่โครงการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของภาครัฐ และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด โดยที่ดินโครงการตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. และได้รับอนุญาตเชื่อมทางอย่างถูกต้องจากกรมทางหลวง ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการอนุมัติการเชื่อมทางแต่เพียงผู้เดียว
อีกทั้งบริษัทปฏิบัติตามกฏหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียวบริเวณ ก1-10 ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ไม่เกิน 10% ของพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว รวมถึง บริษัทได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้องแล้ว
"เราขอวิงวอนให้ภาครัฐให้ความเป็นธรรม และช่วยคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาต่างๆ โดยโครงการมีมูลค่าร่วมลงทุนของซีพีเอ็น และร้านค้ากว่า 150 ร้านค้า รวมกว่า 5,000 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดให้บริการคาดว่า จะมีการจ้างงานพนักงานร้านค้าที่เช่าพื้นที่ กว่า 1,000 คน และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในประเทศกว่า 30,000 ล้านบาท" นายปรีชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากศาลปกครองกลางรับคำร้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว บริษัทก็พร้อมจะเปิดให้บริการเซ็นทรัล วิลเลจตามแผนทันที ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่พร้อมเปิดให้บริการในวันแรกคิดเป็น 70% ของร้านค้าทั้งหมด และคาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะสามารถเปิดให้บริการได้เต็ม 100% ตั้งเป้าผู้เข้าใช้บริการไว้ที่ 20,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Bangkok Luxury Outlet" มูลค่าลงทุนทั้งโครงการรวม 5,000 ล้านบาท บนทำเลติดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นโครงการรีเทลรูปแบบใหม่ของ CPN ที่จะเป็น The First International Luxury Outlet in Thailand เป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งแบรนด์เนมในราคาที่ลด 35-70% ได้ทุกวัน โดยมีร้านแบรนด์แฟชั่นระดับโลกตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงแบรนด์อุปกรณ์ไอที เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ของเล่น ร่วมด้วยร้านอาหารและศูนย์อาหาร Food Village