MEGA คาดผลงาน H2/62 โตกว่า H1/62 จากช่วงฤดูกาลขาย-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่, สรุปเจรจาพันธมิตรในอินโดฯ Q4/62

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 30, 2019 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิเวก ดาวัน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) กล่าวว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังนี้จะเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 5,251.96 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลขาย ซึ่งคาดว่าสัดส่วนรายได้ในครึ่งปีหลังจะคิดเป็น 55% ของทั้งปี ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมอีก 4-5 รายการ ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 6-10% ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ ทั้ง Mega We Care, Maxxcare และการรับจ้างผลิต (OEM)

บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตยาในอินโดนีเซีย ทั้งการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตร และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในอินโดนีเซีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4/62 และน่าจะได้เห็นการลงทุนในปี 63 เป็นต้นไป เบื้องต้นบริษัทวางงบลงทุนไว้ประมาณ 300-400 ล้านบาท แหล่งเงินทุนจะมาจากกำไรจากการดำเนินงาน, เงินระดมทุนจากการขายสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน จากปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.73 เท่า

สำหรับการร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้าในสัดส่วน 50:50 กับบริษัท MSN Laboratories Private Limited (India) ขณะนี้การลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตยาระดับโลกในประเทศเมียนมาเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ยาขั้นสูง และมีส่วนผสมของยาที่มีประสิทธิผล (API) ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานแล้ว และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 65-66 วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 600 ล้านบาท

ส่วนการลงทุนสร้างโรงงานที่บางปู ที่ประกอบด้วย คลังสินค้า ขนาดพื้นที่ 9,000 ตารางเมตร ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว และศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) คาดจะสร้างเสร็จในช่วงต้นปี 63 หลังจากนั้นบริษัทจะให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพในช่วงไตรมาส 2/63 จึงจะเริ่มผลิตได้ รวมถึงโรงงานพัฒนายาชนิดใหม่ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 500 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ