(เพิ่มเติม) SC คาดจ่ายปันผลปี 50 สูงกว่าปีก่อน-Q1/51 เชื่อรับรู้รายได้ 500-600 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 19, 2008 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)  เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท ในวันพรุ่งนี้( 20 ก.พ.) จะมีการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดปี 50 โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น สูงกว่าปี 49 ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท  เนื่องจากในปี 50 บริษัทมีกำไรสุทธิมากกว่าปี 49 ที่มีกำไรสุทธิ 333.60 ล้านบาท 
สำหรับในไตรมาส 1/51 คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ประมาณ 500-600 ล้านบาท จาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ บางกอกบูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ ที่เปิดขายในช่วงปลายปีที่แล้ว มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาสแรก ประมาณ 200-250 ล้านบาท , โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม 5 และโครงการ วิสต้า เอเวนิว วัชรพล
ขณะนี้ มียอดขายจากช่วงพรีเซลล์แล้วกว่า 40% จากทั้ง 2 โครงการที่เปิดตัวขายในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ที่มีมูลค่าโครงการรวม 2 พันล้านบาท จากโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม 5 ระดับราคาตั้งแต่ 7-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับหรู
และ โครงการ วิสต้า อเวนิว วัชรพล เป็นประเภททาวน์โฮมใหม่ 2 ชั้น ระดับราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท นอกจานี้ บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ บางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท
"บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคของแต่ละทำเล ได้เป็นอย่างดี เพราะถูกออกแบบมาภายใต้การใช้ฐานข้อมูลและวิจัยตลาดถึงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ทำเล... จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี " น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ในไตรมาส 2/51 บริษัทจะเปิดโครงการอีก 2 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมย่านรัชวิภา 1 โครงการ มูลค่า 1 พันกว่าล้านบาท และ โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด เพชรเกษม 81 จะเป็นบ้านเดี่ยวและมีคอมมูนิตี้ มอลล์ มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท
ฉะนั้นในไตรมาส 4/51 คาดว่าจะมียอดรับร้รายได้สูงมาก หลังจากที่บริษัทได้ทยอยเปิดขายโครงการตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตั้งเป้ารายได้ปี 51 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน จากโครงการทั้งหมดที่จะเปิดในปีนี้ จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 6.5 พันล้านบาท รวมทั้ง ปัจจุบัน บริษัท มีงานในมือ(backlog) ที่มีอยู่ 1 พันล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้ในปี 51 ในสัดส่วน 60% และที่เหลือ รับรู้ในปี 52
"ต้องยอมรับว่าในช่วงธันวาคม - มกราคม ที่ผ่านมา ต้นทุนก่อสร้างเฉลี่ยทุกอย่างขึ้นมา 5% โดยเฉพาะเหล็กขึ้นมาสูงมากที่สุด บริษัทก็ได้รองรับ ด้วยการปรับราคา แต่จะปรับราคาบ้านที่สร้างใหม่ อย่างโครงการบางกอกบูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม 5 ในเฟสที่ 2 จะปรับราคาขาย เป็น 6.8 ล้านบาท จากเฟส 1 ที่มีราคา 4.5 ล้านบาท" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างมองทำเลในต่างจังหวัดเพื่อพัฒนาโครงการในปีหน้า ได้แก่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยจะนำไปพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม และวิลล่า เน้นกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ และ กลุ่มต่างชาติ ทั้งนี้ การขยายตลาดไปต่างจังหวัดเพราะจะช่วยทำให้ยอดขายเติบโต และ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีหลากหลายมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ