SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,652.90 จุด ลดลง 2.02 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 23,372.60 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนมาก จากปัจจัยลบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยวานนี้ (1 ก.ย.62) ทั้งจีนและสหรัฐเริ่มใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันตามแผน รวมทั้งยังมีประเด็นสงครามการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ในบ่ายนี้ตลาดเริ่มแกว่งตัวแคบหลังช่วงเช้าปรับตัวลงลึก 8 จุด พร้อมให้แนวต้านที่ 1,655 และ 1,660 จุด แนวรับให้ไว้ที่ 1,650 และ 1,640 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,652.90 จุด ลดลง 2.02 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 23,372.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,653.97 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,646.59 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีความผันผวนมาก จากประเด็นเชิงลบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งยังต้องติดตามต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเจรจาระหว่างกัน แต่ทั้งสหรัฐและจีนก็ยังเดินหน้าใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าตามแผนที่มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย.62 ทำให้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น และนักลงทุนวิตกกังวลจากสงครามการค้าจะเกิดการชะลอตัวเศรษฐกิจโลก และยังมีสงครามการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ รวมทั้งประเด็น Brexit แบบไร้ข้อตกลง ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน
ในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าตลาดเริ่มแกว่งตัวแคบ จากช่วงเช้าลบไป 8 จุด อาจจะสลับบวกลบ เพราะยังไม่ประเด็นใหม่ที่ชัดเจน ขณะที่ปัจจัยลบได้สะท้อนในราคาไปแล้ว
พร้อมให้แนวต้านที่ 1,655 และ 1,660 จุด แนวรับให้ไว้ที่ 1,650 และ 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,219.30 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,166.29 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 956.33 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 851.01 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 588.13 ล้านบาท ปิดที่ 6.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท