นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือ 1.94 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 2.24 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้เลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการออกไปจากนี้ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบของ PF จำนวน 4 โครงการ และคอนโดมิเนียมของ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) จำนวน 2 โครงการ ทำให้เหลือโครงการที่เปิดตัวในปีนี้จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.02 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่วางแผนเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.93 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้เข้าเป้าหมาย 2.5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการโอนโครงการอีก 4.7 พันล้านบาท จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีทั้งหมด 6.7 พันล้านบาท พร้อมกับการทยอยระบายสต๊อกที่มีอยู่มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม 8 พันล้านบาท เพื่อสร้างรายได้กลับเข้ามาให้กับบริษัท
ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/62 คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงไตรมาส 2/62 เนื่องจากมาตรการ LTV กดดัน และคาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1.06 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.13 พันล้านบาท
นายธีรธัชช์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังเดินหน้าปรับลดหนี้สินเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงิน ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Interest Bearing Debt : IBD/E) ราว 3.5 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าจะลดหนี้สินลงในปีนี้ 4 พันล้านบาท เพื่อลดภารดอกเบี้ยจ่าย และทำให้อันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรทติ้ง) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ BB+ ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลงจากปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี บริษัทคาดหวังให้มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2-3%
การลดภาระหนี้ให้ต่ำลงนั้น บริษัทจะใช้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.สร้างผลการดำเนินงานที่ดี 2.ขายที่ดินและเงินลงทุนที่บริษัทไม่ได้ใช้ประโยชน์ และ 3.การเพิ่มทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 1,354,347,880 หุ้น แบ่งจัดสรรจำนวน 1,083,478,304 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering :RO) และในกรณีที่หุ้นสามัญคงเหลือหลังจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่คงเหลือดังกล่าวเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นในวงจำกัด (Private Placement : PP)
สำหรับการขายเงินลงทุนนั้นบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขายหุ้น บมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) ในสัดส่วน 45% จากหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 98.48% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยจะแบ่งขายเป็น 2 รอบ รอบแรกจะขาย 30% ภายในปี 62 และรอบ 2 จะขาย 15% ในปี 63 เพื่อนำเงินมาใช้ในการชำระคืนหนี้