ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนได้ซึมซับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นในยุโรปที่ปิดทำการแข็งแกร่งขึ้นเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุด
การซื้อขายหุ้นที่แข็งแกร่งในตลาดเอเชียและค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดัชนีฮั่งเส็งปิดพุ่งขึ้นในวันนี้
หุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า (BOC) ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกระแสข่าวที่ว่า ธนาคารได้ลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดซับไพรม์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้น 363.92 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 24,123.17 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 7.879 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
"จากการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเมื่อวานนี้ นักลงทุนจึงหันไปหาปัจจัยบวกจากตลาดในยุโรปแทน ตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดแข็งแกร่งเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดัชนีพุ่งขึ้นในวันนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารจีนได้รับแรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นในแง่บวกของประธาน BOC" เบ็น คว็อง นักวิเคราะห์จากเคจีไอ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจที่เข้มงวดขึ้นในจีนเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่จำกัดไม่ให้ดัชนีพุ่งขึ้นมากนักในวันนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนม.ค.จากระดับในปีก่อนหน้านี้ นับเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นสูงในรอบกว่า 11 ปี เนื่องจากจีนต้องเผชิญกับภัยพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
หุ้น BOC เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 7.8% หลังจากที่นายเซี่ย กัง ประธาน BOC ได้กล่าวว่า ธนาคารได้จัดการปรับลดตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (CDO) ที่เกี่ยวข้องกับซับไพรม์ทั้งสิ้น 496 ล้านดอลลาร์ และได้ตั้งสำรองหนี้สูญไว้เพียงพอสำหรับยอดการลงทุนที่เหลืออยู่ในซับไพรม์
"จีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นเพดานสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ" อเล็กซ์ ถัง นักวิเคราะห์จากคอร์ แปซิฟิก-ยามาอิชิกล่าว
เมื่อปีที่แล้ว จีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 6 ครั้ง และได้ปรับขึ้นเพดานสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา
คว็องคาดการณ์ว่า ดัชนีฮั่งเส็งจะเคลื่อนไหวในช่วง 23,700-24,500 จุด ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอฟังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค. และตัวเลขสร้างบ้านใหม่
หุ้นกลุ่มธนาคารอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 3.5% และหุ้นไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 3.3%
หุ้นแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ พุ่งขึ้น 44 เซนต์ หรือ 4.7% หุ้นเอชเอสบีซี เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 1.6% และหุ้นฮั่งเส็ง แบงค์ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1%
ขณะเดียวกันหุ้นไชน่า ยูนิคอม ร่วงลง 42 เซนต์ หรือ 2.2% และหุ้นไชน่า เน็ทคอม ร่วงลง 35 เซนต์ หรือ 1.4%
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่จีนอาจจะสรุปแผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นทั้งสองได้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแผนปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาคธุรกิจโทรคมนาคม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--