ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,642.25 จุด ลดลง 11.86 จุด (-0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 61,745.95 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,660.26 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,642.23 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 560 หลักทรัพย์ ลดลง 1,033 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 376 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบราว 0.5% เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังไม่สามารถกำหนดวันเจรจากันได้
นอกจากนี้ เรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก็มีความรุนแรงขึ้น โดยมีโอกาสที่จะเกิดการแยกตัวแบบไร้ข้อตกลง แต่ฝ่ายค้านก็ออกมาคัดค้าน ซึ่งหากค้านกันมาก ๆ ก็อาจจะยุบสภาได้ ดังนั้น จะต้องติดตามดูจะออกมาในทางไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เงินปอนด์ได้อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง จากความคาดหวังในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ซึ่งต้องรอดูจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงกดดันอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GULF มูลค่าการซื้อขาย 5,586.87 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,726.47 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,990.18 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,913.13 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,856.83 ล้านบาท ปิดที่ 82.50 บาท ลดลง 1.00 บาท