บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท แอลพลา (ALPLA) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับโลกจากยุโรป จัดตั้งบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) ที่นิคมเอเชีย มาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ตามแนวคิด GC Circular Living ตอบโจทย์ดูแลสิ่งแวดล้อม
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTTGC เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีมูลค่าลงทุน 3 พันล้านบาท ซี่งดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่าง PTTGC ถือหุ้น 70% และ ALPLA ถือหุ้น 30% เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลรวม 4.5 หมื่นตัน/ปี โดยเป็นชนิด rPET จำนวน 3 หมื่นตัน/ปี และ rHDPE จำนวน 1.5 หมื่นตัน/ปี ซึ่งจะเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงที่สามารถผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารได้ โดยจะเริ่มดำเนินการทันทีหลังจากการเซ็นสัญญาในวันนี้ และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 เดือน ซึ่งจะแล้วเสร็จมีเริ่มผลิตได้ในช่วงเดือน เม.ย.64
"ความร่วมมือระหว่างบริษัทและ ALPLA ครั้งนี้ นับเป็นโครงการต้นแบบเพื่อสร้างความร่วมมือและการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อให้เกิดการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวจะใช้ปริมาณขยะเป็นจำนวน 6 หมื่นตัน/ปี เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเพื่อป้อนให้กับลูกค้าในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่ามีความต้องการใช้เม็ดพลาสติกดังกล่าวแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไป แต่หากมีเหลือก็พร้อมที่จะส่งออกเพราะทาง ALPLA เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีฐานการผลิตจำนวนมากในหลายประเทศ และยังมีความต้องการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกในไทยแม้จะมีจำนวนมาก แต่โรงงานของบริษัทร่วมทุนที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้จะเป็นโรงงานที่มีมาตรฐานสูงแห่งแรกของไทย ซึ่ง ALPLA เป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจรีไซเคิลตลอดห่วงโซ่การบริหารจัดการ และการใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจากทวีปยุโรป ซึ่งจะทำให้มีระบบการจัดการที่ดี การออกแบบการผลิตที่รักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้พลาสติกใช้แล้วให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างคุ้มค่า
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมของทิศทางอุตสาหกรรมพลาสติกปัจจุบันมีความผันผวนตามเศรษฐกิจโลกและปัญหาสงครามการค้า ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยบริษัทก็พร้อมรับมือด้วยการพยายามทำให้มีต้นทุนการผลิตต่ำและแข่งขันได้ ตลอดจนผลิตสินค้าออกมาอย่างสม่ำเสมอและหลากหลาย เพื่อตอบสนองกับความผันผวนที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนการลงทุนของบริษัทนั้น เป็นการลงทุนระยะยาวซึ่งทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน โดยเฉพาะโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐ ก็ยังอยู่ระหว่างศึกษาและคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในต้นปี 63
ด้านนายณัฐนันท์ ศิริรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานพัฒนาธุรกิจ ของ PTTGC กล่าวว่า โครงการของบริษัทนับเป็นโรงงานรีไซเคิลที่ครบวงจรแห่งแรกของไทยที่สามารถผลิตเม็ดพลาสติกที่รองรับการทำบรรจุภัณฑ์อาหารได้ แม้การผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจะมีต้นทุนการผลิตสูง และราคาจำหน่ายน่าจะสูงกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไปราว 20-30% แต่เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าเดิมของบริษัทที่ต้องการนำไปผสมกับเม็ดพลาสติกทั่วไปในการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยอาจจะนำไปผสมในสัดส่วน 25% หรือ 50% ตามนโยบายการดำเนินกิจกรรมการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน (Sustainable)
นายกุนเธอร์ เลเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลพลา จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีฐานการผลิตกว่า 178 แห่งทั่วโลก ใน 46 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย โดยบริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว ประเภทวัสดุ PET และ HDPE ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในยุโรปและละตินอเมริกา ซึ่งการร่วมมือกับ PTTGC ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้โครงการผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนของ PTTGC มีความสามารถในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณภาพสูงและเป็นผู้นำของผู้ผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนระดับประเทศและภูมิภาค